Sat 12 Feb 2022

PAIYABOOKS

เปิดกรุหนังสือเล่มโปรด เล่มที่โดนป้ายยา ชีวิตการอ่านของแก๊งแอดมินแห่งกรุ๊ป ‘สมาคมป้ายยาหนังสือ’

     นายอยู่ในกรุ๊ปสมาคมป้ายยาหนังสือเหรอ งั้นก็จริงน่ะสิ ที่นายมีไอ้นั่น… แบบว่า เพื่อนป้ายยาและดองหนังสือเต็มไปหมด…

     ที่เราขึ้นต้นมาแบบนี้ก็เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่กดเข้าไปเยี่ยมชมกรุ๊ป การจะหลุดพ้นจากการป้ายยาของนักอ่านทั่วสารทิศนั้นแสนยากเย็น จนเผลอกดสั่งหนังสือมาเข้ากองอยู่เรื่อย รวมถึงชาวสมาคมฯ ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ระหว่างสิงอยู่ที่นี่เรามักจะเจอว่าในนี้มีเพื่อนรักนักดองเหมือนกันเสมอ (รู้สึกอบอุ่นมาก)

     ‘สมาคมป้ายยาหนังสือ’ คือคอมมิวนิตี้แห่งคนรักหนังสือ ที่อ่านหนังสือกันจริงๆ แนะนำกันจริงๆ ป้ายยากันจริงๆ และโดนตกกันจริงๆ กรุ๊ปที่ตั้งขึ้นมาได้ประมาณหนึ่งปีจากกลุ่มคนรักหนังสือกลุ่มหนึ่ง ที่เพื่อนชวนเพื่อน ชวนเพื่อนของเพื่อน ชวนต่อๆ กันอีกที ตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์เพื่อการป้ายยาโดยเฉพาะ ฟีลสบายๆ ชวนเพื่อนเสียเงิน “แกๆ ฉันอ่านเล่มนี้มันสนุกมาก แกไปซื้อสิ” 

     ด้วยคำว่าเพื่อนชวนเพื่อนนี่แหละ ทำให้จากกลุ่มคนไม่มาก กลายเป็นว่าวันนี้ในสมาคมฯ มีสมาชิกไปแล้วกว่า 8.3 หมื่นคน คณะผู้ก่อตั้งก็มีการจัดระเบียบบ้านกันสักนิด เริ่มมีกฎที่ต้องให้ช่วยกันรักษา มีแอดมินดูแลสักหน่อย นอกจากนี้ยังขยับจากพื้นที่ป้ายยาอย่างเดียว มาเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว ตั้งแต่ตามหาหนังสือ รีวิวหนังสือ แชร์มีม แนะนำชั้นวางหนังสือ แจกโพยหนังสือใหม่ เปิดท้ายปล่อยหนังสือ ปักหมุดร้านหนังสือ อัพเดตข่าวคราววงการสิ่งพิมพ์ ไปจนตั้งวงสนทนาพาทีด้วย 

     หลังสิงในสมาคมฯ มาระยะหนึ่ง เราก็อดไม่ได้ที่จะไปชวนชาวแก๊งแอดมินผู้คุมกฎแห่งสมาคมฯ มาแชร์ชีวิตการอ่าน หนังสือเล่มโปรด ปริมาณกองดอง ไปจนสิ่งที่เราสงสัยสุดๆ ว่ามีเล่มไหนที่พวกเขาโดนป้ายยาจากกรุ๊ปบ้างไหม และใช่ เราขอให้พวกเขาบันทึกลง ‘BOOKMARKS’ ตอนนี้นี่แหละ

หน้า 1
แอดมินน้ำส้ม นฤมล นิลมานนท์

หนังสือที่อ่านอยู่ หรือเล่มโปรดสุดๆ พร้อมคำอวยยศ

     Bullet Journal จัดระบบความคิด จัดระเบียบชีวิตด้วย บุลเล็ตเจอร์นัล (Marie เขียน) ค่ะ เดิมเป็นคนจดแพลนเนอร์อยู่แล้วแต่อยากศึกษาเพิ่มเติมเลยไปคว้าเล่มนี้มา 

     ส่วนเล่มโปรดสุดๆ เอาจริงมีหลายเล่มเลยแต่ถ้าให้เลือกเล่มเดียว ส้มขอเลือกเล่มที่หยิบมาอ่านบ่อยๆ นั่นคือ ความสุขของกะทิ (งามพรรณ เวชชาชีวะ เขียน) ค่ะ เป็นเล่มที่เวลาอ่านรู้สึกเหมือนได้นั่งพักเย็นๆ แล้วมองดูสิ่งรอบตัว มีความสุข ณ ตอนนี้ ณ ปัจจุบันนี้ 

     ความสุขของกะทิ เป็นหนังสือที่ว่าด้วยความสุข แรงบันดาลใจ และการใช้ชีวิต รวมไปถึงการรับมือกับความเศร้าและความผิดหวัง ผ่านเรื่องเล่าของ ‘กะทิ’ เด็กหญิงอายุ 9 ขวบที่อาศัยอยู่กับตายายที่บ้านริมคลอง โดยจะเล่าผ่านสายตาและความคิดของกะทิค่ะ สิ่งที่กะทิเห็น สิ่งที่กะทิสัมผัส สิ่งที่กะทิรู้สึก เรื่องราวในชีวิตประจำวันต่างๆ ไปจนถึงเรื่องราวของแม่ และการสูญเสียแม่ของเด็กในวัย 9 ขวบ รวมไปถึงการที่พ่อของเธอไม่เคยรับรู้ว่ามีเธอเป็นลูก แม้จะดูเหมือนว่าเรื่องที่กะทิต้องเจอจะเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสสำหรับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่กะทิเป็นเด็กที่แข็งแกร่ง และมองโลกแง่บวกอยู่เสมอ เพราะกะทิได้รับความรักจากทุกๆ คนรอบตัวจนทำให้เธอไม่เคยรู้สึกขาด เสมือนเป็นภูมิคุ้มกันที่ทำให้เธอเป็นคนที่มีความสุขได้เสมอ 

     ส้มชอบความคิดของกะทิหลายอย่างมากค่ะ ฉากหนึ่งที่ชอบมาก คือตอนไปเล่นกับพิงค์ แล้วพิงค์ระบายสีภาพพ่อกับน้องตัวเองให้น่าเกลียด เพราะเกลียดที่พ่อไปมีภรรยาใหม่และรักน้องมากกว่าเธอ แต่กะทิกลับไม่เคยนึกเกลียดชังโลกใบนี้ที่พรากแม่ของเธอไปด้วยโรคร้าย หรือเกลียดพ่อที่เธอไม่เคยเห็นหน้า ตรงกันข้ามเธอพอใจกับชีวิตของเธอ ความสุขของเธอมันเกิดขึ้นแล้ว ณ ตอนนี้ โดยไม่ต้องไปแสวงหาให้เหน็ดเหนื่อย เธอเลือกมีชีวิตตามเดิม อยู่บ้านริมคลองกับตายายและคนที่รักเธอ มีแม่อยู่ในใจของเธอเสมอ โดยเลือกที่จะไม่ติดต่อไปหาพ่อ

     ทุกวันนี้ เรามีหนังสือแนวฮาวทูที่แนะนำวิธีการที่เราจะพบความสุขได้มากมายในท้องตลาด แต่สำหรับ ความสุขของกะทิ ความสุขคือปัจจุบัน ความสุขเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่ตัวเราเองเป็นสุข การเรียนรู้เรื่องราวของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งอย่างกะทิทำให้มุมมองของส้มที่มีต่อความสุขเปลี่ยนไปค่ะ ความสุขนั้นไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ ไม่จำเป็นต้องมีสูตรตายตัว เรามีความสุขกับเรื่องง่ายๆ ได้ ทำความเข้าใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แม้บางเรื่องราวเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ก็ตาม

     จริงๆ เล่มนี้มีภาคต่อนะคะ ชื่อตอนว่า ความสุขของกะทิ ตอน ตามหาพระจันทร์ มีส่วนหนึ่งของหนังสือที่ส้มชอบมาก

     “เวลาเป็นของสมมติที่มนุษย์คิดขึ้นมา เพื่อวัดระยะเวลาที่ผ่านไปตามความเป็นจริง แต่ความรู้สึกสุขทุกข์ของเราต่างหาก ที่เป็นตัววัดว่าเวลาผ่านไปช้าหรือเร็วแค่ไหน” ไม่ว่าโลกจะเป็นอย่างไร ขอให้พวกเรามีความสุขกันได้เสมอนะคะ ขอให้มองเห็นแต่สิ่งดีๆ ที่ทำให้จิตใจของเราเป็นสุขได้ ขอให้เราสามารถสร้างความสุขในแบบของเรา มีแต่เรื่องดีๆ ให้เราได้จดจำนะคะ

เล่มที่ถูกป้ายยาจากในกรุ๊ป

     เจ้า Bullet Journal ก็โดนป้ายมานะคะ 555 นอกนั้นก็มี ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ, ศูนย์รับฝากความเสียใจ, สัญญาณเตือนตาย, DAS PARFUM น้ำหอม, สถาบันสถาปนา, นี่เราใช้ชีวิตยากเกินไปหรือเปล่านะ ฯลฯ จริงๆ เยอะกว่านี้แต่นึกออกแค่นี้ 555

ประโยคจากหนังสือที่จำได้ขึ้นใจ

     “สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจมองเห็นได้ด้วยดวงตา เราจะมองเห็นแจ่มชัดได้ด้วยดวงใจเท่านั้น” จากหนังสือ เจ้าชายน้อย ของ อองตวน เดอ แซงเตก-ซูเปรี (Antoine de Saint-Exupery)

เล่าชีวิตการอ่านหนังสือให้ฟังหน่อย

      จริงๆ เป็นคนใช้เศษเวลาในการอ่านหนังสือ อย่างเวลาเดินทาง ขึ้นเครื่องบิน เวลานั่งรอ ช่วงหลังลูกเข้านอน ประมาณนี้ค่ะ

ปกติคั่นหนังสือยังไง

     ที่คั่นหนังสือค่ะ แต่ถ้าหาที่คั่นไม่เจอก็นามบัตร

คุณจัดชั้นหนังสือแบบไหน

     ไม่มีเทคนิคเลยค่ะ วางมั่วไปหมด ว่าจะจัดยังไม่ได้จัดสักที แง

จำนวนหนังสือที่ดองอยู่ตอนนี้

     โอ้โห ไม่ได้อ่านเยอะมากกกกกกก ดองเยอะมากค่ะ สักร้อยเล่มได้มั้ง

หน้า 2
แอดมินแคท กรอุษา ศิระยรรยง

หนังสือที่อ่านอยู่ หรือเล่มโปรดสุดๆ พร้อมคำอวยยศ

     สมัยเด็กๆ เราติดการอ่านหนังสือมาก แต่พอย้ายมาต่างประเทศ หนังสือภาษาไทยหาซื้อยาก… แพงด้วย… เราเลยหันไปติดเกม ติดเฟซบุ๊กแทน เลิกจับหนังสือไปเกือบสิบปี พอปลายปี 2020 เราไปเจอหนังสือเล่มหนึ่ง คำโปรยเขียนว่า ‘ยอดขายมากกว่า 12 ล้านเล่ม’ ก็คิด… โห อะไรจะขายดีเว่อร์ขนาดนี้ เลยเอามาลองเปิดๆ อ่านดู 

     ตอนที่จับหนังสือครั้งแรก รู้เลยว่าตัวเองสมาธิสั้นมาก อ่าน วาง จับโทรศัพท์ วนๆ อยู่อย่างนี้ ร้อยหน้าแรกใช้เวลาอ่านครึ่งเดือน แต่พอสนุกเท่านั้นล่ะ… โอ๊ย เหมือนตัวเองหลงเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการเลย อ่านเพลินจนลืมวันลืมคืน พออ่านจบก็คิดในใจว่า หนังสืออะไรเนี่ย ทำไมถึงได้สนุกอย่างนี้ เนื้อเรื่อง พล็อต ความเชื่อมโยง การเล่าเรื่อง ทุกอย่างมันทรงพลังมาก คนเขียนเทพสุดๆ 

     เรียกได้ว่า ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ ของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ สนุกจนทำให้เราสนใจกลับมาอ่านหนังสืออีกรอบทีเดียวค่ะ

เล่มที่ถูกป้ายยาจากในกรุ๊ป

     โอ๊ย ทุกเล่มที่มีเลยค่ะ ตอนนั้นพออ่านเคโงะจบ เพจสมาคมป้ายยาฯ ก็เด้งมาจากไหนไม่รู้ เข้าหน้าวอลล์ของเรา พอคลิกเข้าไป ชีวิตก็เปลี่ยนทันที ด้วยความที่ไม่ได้อ่านหนังสือมานาน เวลาเห็นคนรีวิวเราก็ตื่นเต้นไปหมด เล่มโน้นก็อยากมี เล่มนี้ก็อยากได้… สรุป ก็ต้องซื้อทุกเล่มสิคะ

     ดองไว้แต่ยังไม่ได้อ่าน ดีกว่าอดอ่านเพราะไม่ได้ดอง…

ประโยคจากหนังสือที่จำได้ขึ้นใจ

     “แท้จริงแล้ว ความเสียใจมีไว้เพื่อให้เรายิ่งทะนุถนอมปัจจุบัน” จากหนังสือ ศูนย์รับฝากความเสียใจ ของ ซื่ออี ที่ชอบเพราะว่า ไม่เคยคิดถึงความเสียใจในแง่นี้เลยค่ะ

เล่าชีวิตการอ่านหนังสือให้ฟังหน่อย

     ชอบแบ่งหนังสืออ่านกับเพื่อน ตอนเด็กๆ เวลาเจอเล่มไหนสนุกๆ เราก็มักจะไปเล่าให้เพื่อนฟัง พอเพื่อนสนใจก็จะขอยืมหนังสือเราไป ซึ่งเราก็จะยินดีมากๆ (ก็อยากแบ่งปันเรื่องที่เรารักให้หลายๆ คนได้อ่านเนอะ) แล้วหนังสือก็หายประจำ 555 พอหนังสือหายหลายเล่มเข้า เราก็เลยเขียนชื่อตัวเองหนาๆ ไว้บนขอบกระดาษหนังสือทุกเล่มก่อนจะให้เพื่อนยืม ประมาณว่า หนังสือนี้ของตรู… ยืมไป คืนด้วย!!! แต่ตอนนี้ไม่กล้าเขียนชื่อบนขอบหนังสือแล้วค่ะ เพราะนิสัยการอ่านเปลี่ยนไปจากเดิมมาก 

     ตอนเด็กๆ เรามองหนังสือเป็นหนังสือ หยิบติดมือไปอ่านได้ทุกที่ สนุกก็เก็บเข้าชั้น ไม่สนุกก็ให้แม่ชั่งกิโลฯ ขาย…ส่วนเดี๋ยวนี้ ไม่รู้ทำไม หนังสือกลับกลายมาเป็นของสะสมแทน เราเลยต้องอ่อนโยนกับหนังสือมากกว่าเดิมเยอะ ซึ่งเราก็ดีใจนะคะ เพราะตลาดสะสมหนังสือทำให้วงการหนังสือคึกคักมากขึ้นค่ะ

ปกติคั่นหนังสือยังไง

     ใช้การจำเลขหน้าเอาค่ะ ก่อนจะวางเราก็จะกวาดตาไปที่มุมกระดาษนิดนึง เพื่อเป็นการดึงสติเรากลับมาก่อนปิดหนังสือ แถมได้ฝึกความจำไปในตัวด้วย (ความจริงแล้ว คือขี้เกียจหาที่คั่นนั่นแหละ 555)

คุณจัดชั้นหนังสือแบบไหน

     เนื่องด้วยเพิ่งกลับมาอ่านหนังสือได้ไม่นาน เราเลยได้โควต้าตู้หนังสือมาแค่ตู้เดียวค่ะ เราจะจัดหนังสือที่อยากอ่านไว้ในตู้ ส่วนที่เหลือก็ต้องระหกระเหินไปนอนในลังกระดาษเอา ข้อดีของการใส่หนังสือในลังก็คือ… เราจะใจเต้นตึกตักทุกครั้งที่เปิดกล่อง เพราะบางทีเราจะลืมไปว่าซื้ออะไรมาบ้าง พอเห็นก็จะวี๊ดว้ายกระตู้วู้กับตัวเองประจำ กรี๊ด เล่มนี้ก็น่าอ่าน เล่มนั้นก็น่าสนใจ ตื่นเต้นทุกรอบค่ะ

จำนวนหนังสือที่ดองอยู่ตอนนี้

     อุ๊ย ความลับค่ะ… บอกไม่ได้เลย ถ้าแม่เปิดมาอ่านเจอแล้วหูชาแน่ๆ

หน้า 3
แอดมินซาร่า รัตน์วิภา แสนโย 

หนังสือที่อ่านอยู่ หรือเล่มโปรดสุดๆ พร้อมคำอวยยศ

     เล่มโปรดที่เจอใครก็จะบอกต่อ อ่านได้ทุกเพศทุกวัยคือ Flowers for Mrs. Harris ดอกไม้สำหรับมิสซิสแฮรีส (Paul Gallico เขียน) ชอบความฝันของตัวละครในเรื่อง มันทำให้เรารู้สึกว่าฝันนั้นมันเป็นจริงได้ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ อ่านแล้วสร้างแรงบันดาลใจได้ดี

เล่มที่ถูกป้ายยาจากในกรุ๊ป

     สัญญาณเตือนตาย (โจวเฮ่าฮุย เขียน) เรื่องที่เชื่อว่าทุกบ้านต้องมี สมาชิกกว่าแปดหมื่นคน มีเรื่องนี้ไปแล้วแปดหมื่นคน

ประโยคจากหนังสือที่จำได้ขึ้นใจ

     “ทุกวันนี้ฉันยังคงจัดหนังสือกองดองอยู่เรื่อยๆ” จากหนังสือ ศิลปินผู้ตกหลุมรักหนังสือ ของ โอ๊ต มณเฑียร

เล่าชีวิตการอ่านหนังสือให้ฟังหน่อย

     อ่านเมื่ออยาก และเวลาว่างบรรจบกัน

ปกติคั่นหนังสือยังไง

     ใช้ที่คั่นหนังสือ

คุณจัดชั้นหนังสือแบบไหน

     เรียงตามหมวดประเภท และชื่อนักเขียน

จำนวนหนังสือที่ดองอยู่ตอนนี้

     อย่า…นับเลย

หน้า 4
แอดมินปูเป้

หนังสือที่อ่านอยู่ หรือเล่มโปรดสุดๆ พร้อมคำอวยยศ

     คนท่องยุทธภพ ไหนเลยไม่โดนดาบ (เอ๋อร์ หย่า เขียน) ขึ้นหิ้งในฐานที่สนุก ตลก เนื้อหาดี อ่านง่าย ขำก็ได้ ร้องไห้ก็มี ซื้อเพียงหนึ่งเดียวได้ครบทุกรส

เล่มที่ถูกป้ายยาจากในกรุ๊ป

     นับไม่ถ้วน ขอบัญชีหนังหมาเล่มนึงค่ะ เดี๋ยวทยอยจดให้

ประโยคจากหนังสือที่จำได้ขึ้นใจ

     “โลกนี้จะไม่มีอะไรก็ได้ แต่จะไม่มีเงินไม่ได้” จากหนังสือ ยอดหญิงหมอเทวดา ของ อวี่ จิ่วฮวา

เล่าชีวิตการอ่านหนังสือให้ฟังหน่อย

     ทุกครั้งที่อยู่ในท่านั่ง ต้องได้อ่าน ไม่ว่าจะที่ไหนเวลาไหน

ปกติคั่นหนังสือยังไง

     อะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้หนังสือเปียกหรือเลอะเทอะ อย่างกระดาษ ปากกา แบงก์ เงินเหรียญ เครื่องคิดเลข ไม้บรรทัด หรือหนังสือเล่มอื่นที่เล็กกว่า!

คุณจัดชั้นหนังสือแบบไหน

     การจัดชั้นหนังสือมันคืออะไรเหรอคะ ไม่เคยได้ยินมาก่อน…

จำนวนหนังสือที่ดองอยู่ตอนนี้

     ยังไม่มีเงินพอจะจ้างคนมานับเลยค่ะ เอาเงินไปเปย์หนังสือหมดแล้ว