Wed 14 Sep 2022

NEIL GAIMAN

เมื่อเวทมนตร์ถูกสร้างขึ้นจากปลายปากกาของมนุษย์ธรรมดา

ภาพ: ms.midsummer

     หากพูดถึงนิยายแนวแฟนตาซีแล้ว ชื่อของ ‘นีล เกแมน’ (Neil Gaiman) คงเด้งขึ้นมาในหัวของใครหลายๆ คน 

     ด้วยเสน่ห์ของการสร้างโลก (Worldbuilding) และการดำเนินเรื่องด้วยตัวละครที่มีชีวิตชีวาอย่างน่าอัศจรรย์ ผลงานของเขาถูกนำไปแปลเป็นหลายภาษาทั่วโลก ถูกดัดแปลงเป็นสื่อประเภทต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ หนังสั้น หรือภาพยนตร์ ซึ่งมีชื่อของเขาเป็นผู้เขียนทั้งสิ้น 41 เรื่อง โดยซีรีส์ล่าสุดที่กำลังฉายและได้รับความนิยมสูงในตอนนี้คือ The Sandman ทำให้เกแมนได้รับขนานนามว่าเป็น ‘ยอดนักเล่าเรื่องแห่งยุค’ เลยทีเดียว

ว่าด้วยโลกของเรื่องเล่า

     เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง คุณมองเห็นอะไร?

     คำตอบของคำถามนั้นคงเป็นบ้านเรือน ตึก ท้องฟ้า ต้นไม้ หรืออะไรก็ตามที่มองเห็นผ่านสายตา แต่ถ้าคนตอบคำถามนี้เป็นเกแมน เขาจะบอกคุณว่า จงมองรอบๆ ตัวให้ถี่ถ้วน แล้วเปลี่ยนมัน ทำให้มันใหญ่ขึ้น ทำให้มันเล็กลง ทำให้มันไม่เหมือนเดิม

     ในหัวของเกแมนมีโลกอยู่หลายใบ เขามองว่า ‘การโกหก’ เป็นเครื่องมือสำคัญของงานวรรณกรรมที่จะใช้เล่า ‘ความเป็นจริงของมนุษย์’ เนื่องจากในเรื่องเล่าเหล่านั้นแทบไม่มีอะไรจริงเลย ทั้งสถานที่ที่ไม่มีอยู่จริง ตัวละครที่ไม่มีอยู่จริง การกระทำทุกอย่างโดยพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง นักเขียนจึงจำเป็นต้องรู้วิธีการที่จะทำให้โลกของเรื่องเล่านั้นสมจริงต่อผู้อ่าน ไม่ว่าโลกใบนั้นจะเป็นโลกที่อ้างอิงจากความเป็นจริง ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ หรือแปลกประหลาดไปจนไม่เหลือเค้าเดิมเลยก็ตาม

     แน่นอนว่าเกแมนทำสำเร็จ โลกในจินตนาการของเขาได้เข้าไปครอบครองใจของผู้อ่านหลายๆ คนตลอดช่วงเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา

     Good Omens (1990) ทำให้คนอ่านอ้าปากค้างและหัวเราะไปกับเรื่องตลกร้ายของวันสิ้นโลก ที่เทวดาและปีศาจผู้ผูกพันกับการใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์หันมาร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งคำพยากรณ์นั้นให้ได้

     Stardust (1999) พาคนอ่านไปเดินชมตลาดนัดที่มนุษย์ในกำแพงและอมนุษย์จากดินแดนแฟร์รี่จะได้พบปะกันทุก 9 ปี หนุ่มชาวบ้านคนหนึ่งเดินทางออกนอกกำแพงไปตามหาดาวตกเพื่อแลกกับจูบของสาวที่ชอบ เขาได้เจอกับดาวและเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวการหลบหนีเอาชีวิตรอดจากการถูกตามล่า โดยเหล่าแม่มดที่ต้องการกินหัวใจของดาวเพื่อรักษาความเยาว์วัยอันเป็นนิรันดร์

     Coraline (2002) นิยายสำหรับเด็กที่มอบทั้งความกลัวและความกล้าให้คนอ่าน เมื่อเด็กหญิงคอรัลไลน์คลานผ่านประตูเล็กๆ บานหนึ่งในบ้านไปเจอกับโลกพิศวงซึ่งมีแม่อีกคน พ่ออีกคน และทุกคนที่ต่างไป แม่คนนั้นพร้อมมอบโลกที่คอรัลไลน์จะมีความสุขกว่าเดิมให้ โดยสิ่งที่เด็กหญิงต้องทำมีเพียงเย็บกระดุมติดที่ดวงตาเท่านั้น

     The Graveyard Book (2008) ร่วมผจญภัยและตามหาความหมายของการมีชีวิตไปกับบ๊อด เด็กชายผู้รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ยกครัวเมื่อหลายปีก่อน เขาเติบโตมาในสุสานด้วยการดูแลของเหล่าวิญญาณและอมนุษย์หลากหลายประเภท บ๊อดไม่เคยรู้ว่ามีมนุษย์ด้านนอกกำลังตามล่าหมายจะเอาชีวิตเขาอยู่

     Norse Mythology (2017) เกแมนนำตำนานเทพปกรณัมนอร์สที่ผู้คนคุ้นเคยมาเล่าใหม่ในสไตล์ของตัวเอง โดยมีเหล่าเทพ ทั้งโอดิน ธอร์ และโลกิ เป็นตัวละครดำเนินเเรื่อง กล่าวถึงจุดกำเนิดของโลกทั้งเก้าไปจนถึงแร็กนาร็อค อันเป็นจุดจบของทวยเทพ

     ที่กล่าวไปเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้น แน่นอนว่าเกแมนยังมีโลกอีกหลายใบที่เขาบรรจงจรดปลายปากกาสร้างออกมา ทำให้ทุกครั้งที่ได้อ่านงานของเกแมนก็อดไม่ได้ที่จะคิดสงสัย (ด้วยความชื่นชมอย่างยิ่ง) ว่าในหัวของชายคนนี้มีอะไรอยู่ด้านในบ้าง จึงได้สรรค์สร้างความมหัศจรรย์ราวกับมีเวทมนตร์ได้เช่นนี้

     สิ่งต่างๆ มีเวทมนตร์อยู่จริง หรือความเชื่อของเรากันแน่ที่ทำให้มีเวทมนตร์?

     เกแมนได้ตอบคำถามนั้นในการสัมภาษณ์เมื่อปี 2012 เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของนิยายเรื่อง Coraline ว่า

     “ผมคิดว่าสิ่งต่างๆ ส่วนใหญ่มีเวทมนตร์อยู่จริง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เราเชื่อหรือเปล่าหรอก แต่เป็นเพราะเราเลิกสังเกตเห็นเวทมนตร์เหล่านั้นต่างหาก”

จากเด็กรักการอ่านสู่นักเขียนระดับโลก

     ย้อนเวลากลับไปในวันที่ 10 พฤศจิกายน 1960 นีล เกแมน เด็กชายจากครอบครัวชาวยิวได้ลืมตาดูโลก และเติบโตในเมืองพอร์ตเชสเตอร์ มณฑลแฮมป์เชียร์ ประเทศอังกฤษ 

     เกแมนเป็นพี่ชายคนโตที่มีน้องสาวสองคน ปัจจุบันเป็นคุณพ่อที่มีลูกสี่คน เขาเริ่มอ่านหนังสือออกตั้งแต่อายุ 4 ขวบ และการอ่านก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอย่างตัดไม่ขาดมาตั้งแต่ตอนนั้น

     เขานิยามตัวเองว่าเป็นเด็กที่โตมาในห้องสมุด ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดโรงเรียน หรือห้องสมุดละแวกบ้านซึ่งเกแมนมักจะขอให้พ่อแม่ปล่อยเขาที่นั่นไว้ก่อนไปทำงาน และให้เครดิตว่าห้องสมุดคือสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาเป็น นีล เกแมน นักเขียนที่ทุกคนรู้จักอย่างทุกวันนี้

     วัยเด็กของเกแมนถูกเติมเต็มด้วยหนังสือมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Ka of Gifford Hillary, The Haunting of Toby Jugg, The Chronicles of Narnia (ได้มาตอนวันเกิดอายุ 17 ปี) และ Alice’s Adventures in Wonderland ซึ่งเป็นนิยายเล่มโปรดตลอดกาลของเขา 

     ส่วนคนที่มีอิทธิพลต่องานเขียนของเกแมนที่สุดคือ โรเจอร์ เซลาซนี (Roger Zelazny) กวีและนักเขียนชาวอเมริกัน ผู้เป็นเจ้าของนิยายแนววิทยาศาสตร์และแฟนตาซี ผลงานที่โดดเด่นคือ The Chronicles of Amber

     ดังคำกล่าวที่ว่า “นักเขียนทุกคนล้วนเป็นนักอ่านทั้งนั้น” เกแมนก็เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ว่าคำกล่าวนั้นจริงเสียยิ่งกว่าจริง มีผลงานมากมายที่เกแมนได้อ่านและแรงบันดาลใจให้เขา เช่นเดียวกัน ผลงานของเกแมนก็สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คน 

     เวทมนตร์ของงานเขียนทำงานเช่นนั้น ส่งต่อวนเวียนเป็นวัฏจักรไม่มีวันสิ้นสุด

     หลายคนอาจจะคุ้นเคยชื่อนีล เกแมน จากหน้าปกของหนังสือนิยาย ทว่าความจริงแล้ว เกแมนคลุกคลีกับงานเขียนหลากหลายประเภท แรกเริ่มเขาเป็นนักหนังสือพิมพ์และนักเขียนนิตยสาร ก่อนจะมาเป็นนักเขียนการ์ตูน นักเขียนบท นักเขียนนิยาย (ซึ่งมีตั้งแต่นิยายสำหรับเยาวชนไปจนถึงผู้ใหญ่) นักเขียนนิยายภาพ รวมถึงงานเขียนประเภทน็อนฟิกชั่นด้วย

     กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ การเริ่มต้นของเกแมนก็ไม่ได้ราบรื่น เขาตัดสินใจไม่เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยแล้วมุ่งมั่นทำตามเป้าหมายที่อยากเป็นนักเขียน เขาเขียนงานจำนวนมากและถูกปฏิเสธจำนวนมาก แต่เกแมนก็ยังเชื่อว่าเขามีสิ่งที่ต้องเล่า เขาจึงตัดสินใจทำงานเป็นนักข่าวอยู่ระยะหนึ่ง กว่าจะได้มีหนังสือตีพิมพ์ออกมาก็ตอนอายุ 24 ปี

     หนังสือเล่มแรกของเกแมนตีพิมพ์ในปี 1984 ชื่อ Duran Duran เป็นอัตชีวประวัติของวงดนตรีชื่อเดียวกัน ผ่านไป 1 ปี เกแมนก็เขียนหนังสืออ้างอิงแนวไซไฟและแฟนตาซีร่วมกับ คิม นิวแมน (Kim Newman) เรื่อง Ghastly Beyond Belief ซึ่งการตีพิมพ์ครั้งแรกขายหมดอย่างรวดเร็ว 

     ปี 1990 เกแมนออกนิยายเล่มแรกคือเรื่อง Good Omens โดยเขียนร่วมกับ เทอร์รี แพร็ตเช็ตต์ (Terry Pratchett) นักเขียนชาวอังกฤษอีกคนที่มีอายุมากกว่าเขาเกือบ 12 ปี โดยผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ เรื่องนี้ติดอันดับที่ 68 ในลิสต์นิยายในดวงใจของชาวสหราชอาณาจักรที่สำรวจโดย BBC เมื่อปี 2003 ก่อนจะได้ทำเป็นซีรีส์ในปี 2019 ที่ผ่านมา

     ผลงานที่ทำให้เกแมนเริ่มมีชื่อเสียงเป็นวงกว้างขึ้นคือการ์ตูนเรื่อง The Sandman ตีพิมพ์โดย DC Comics ตลอดปี 1989-1993 รวมทั้งสิ้น 75 ฉบับ โดยในปี 1991 ได้คว้ารางวัล World Fantasy ซึ่งมอบให้นิยายแฟนตาซีที่ดีที่สุดในแต่ละปี 

     แม้งานของเกแมนจะติดอันดับขายดีและโด่งดังแค่ไหน เขาก็ยังคิดว่าตัวเองไม่ใช่นักเขียนกระแสหลัก แต่มองว่าเป็นแบบเฉพาะกลุ่มมากกว่า การที่งานเขียนของเขาได้รับความนิยมก็เพราะมีคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ชื่นชอบงานแนวนี้รวมกันจนกลายเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้นเท่านั้น และกลุ่มที่ว่านั่นก็ดูจะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อปัจจุบัน The Sandman ได้ดัดแปลงเป็นซีรีส์และครองตำแหน่งอันดับ 1 ในเน็ตฟลิกซ์เป็นที่เรียบร้อย

     The Sandman ว่าด้วยเรื่องราวของ ดรีม เทพแห่งความฝันผู้ถูกมนุษย์ธรรมดากักขังไว้ในห้องใต้ดินจนเวลาผ่านไปกว่าศตวรรษ ภายในเรื่องนี้จะได้เห็นการตีความความเชื่อเกี่ยวกับเทพขึ้นมาใหม่ การสร้างโลกแฟนตาซีซึ่งไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และการดำเนินเรื่องผ่านตัวละครที่ตีแผ่ความเป็นมนุษย์ออกมา—ทั้งผ่านตัวละครที่เป็นมนุษย์และไม่ใช่

     การเป็นที่รู้จักมากขึ้นอย่างรวดเร็วจากการ์ตูน The Sandman ทำให้เกแมนเคยพูดออกมาว่ามันน่ากลัว แม้ทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เขาก็กังวลมาก เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังมีผู้คนเป็นล้านจับตาดูสิ่งที่เขาเขียนอยู่ เขาไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อนเลย

     เกแมนได้พูดถึงความกล้าหาญเอาไว้ เขามองว่าคนเรารู้จักสิ่งที่เรียกว่าความกล้าหาญอยู่แล้ว การต่อสู้กับโจรติดอาวุธหรือหมาป่าดุร้ายต้องใช้ความกล้าแน่นอน คนทั่วไปอาจจะไม่จด ‘การส่งเรื่องราวที่ตนเขียนออกไปสู่โลกกว้าง’ ลงในลิสต์การกระทำที่กล้าหาญ แต่เชื่อเถอะว่านี่เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความกล้าหาญมากเช่นเดียวกัน ดังที่เขาเคยกล่าวในหนังสือ  Coraline ว่าการเป็นคนกล้าหาญไม่ได้แปลว่าคุณปราศจากความกลัว แต่มันหมายถึงการที่คุณกลัวอย่างสุดขั้วหัวใจแล้วยังทำสิ่งที่ถูกต้องต่างหาก ซึ่ง Coraline ก็มอบความกล้าหาญให้เหล่านักอ่านจริง ๆ แม้ความกลัวของพวกเขาจะไม่ใช่คุณแม่ที่อยากเย็บกระดุมใส่ตาก็ตาม

อ้างอิง

neilgaiman.com/About_Neil/Biography
notablebiographies.com/news/Ca-Ge/Gaiman-Neil.html
masterclass.com/classes/neil-gaiman-teaches-the-art-of-storytelling
en.wikipedia.org/wiki/Neil_Gaiman
en.wikipedia.org/wiki/The_Sandman_(comic_book)
en.wikipedia.org/wiki/Good_Omens#Development
theguardian.com/books/2013/jul/26/neil-gaiman-sandman-author-profile
azquotes.com/author/5275-Neil_Gaiman/tag/magic
• imdb.com/name/nm0301274/
• หนังสือ Coraline สำนักพิมพ์ Words Wonder