Tue 01 Feb 2022

OIKAWA TORU

‘โออิคาวะ โทรุ’ การเดินทางสู่ความฝันของมหาราชาไร้มงกุฎ

ภาพ: ms.midsummer

บทความชิ้นนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง

     ในวันที่ความเหนื่อยล้าและความผิดหวังถาโถมเข้ามาใส่จนทำให้เราเริ่มหมดแรง การได้อ่านเรื่องราวดีๆ ที่ถ่ายทอดช่วงเวลาแห่งการทำตามความฝันของตัวละครจาก ‘การ์ตูนแนวกีฬา’ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งมิตรภาพและการต่อสู้เพื่อความฝันอันงดงาม ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยชะล้างความเหนื่อยล้าในหัวใจ และเติมพลังให้เรามีแรงสู้ต่อไปได้เป็นอย่างดี

     สำหรับเราแล้ว Haikyu!! (ไฮคิว!! คู่ตบฟ้าประทาน) คือหนึ่งในเรื่องเหล่านั้น

     ผลงานจากปลายปากกาและน้ำหมึกของ ‘ฮารุอิจิ ฟุรุดาเตะ’ (Haruichi Furudate) เรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้อ่านผ่านการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลของตัวละครวัยมัธยมปลาย ที่เป็นเสมือนเพื่อนร่วมทางในการทำตามความฝันไปพร้อมกันกับเราในชีวิตจริง ยิ่งกับโออิคาวะ โทรุ’ ตัวละครที่ไม่ได้เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ แต่ไม่เคยยอมแพ้ต่อการทำตามความฝันของตัวเอง ก็ยิ่งทำให้ Haikyu!! ตราตรึงใจเราเสมอมา

     ด้วยเหตุนี้เอง เราเลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับผู้เขียน เรื่องราวก่อนจะมาเป็นมังงะพลิกวงการวอลเลย์บอลญี่ปุ่น พร้อมแนะนำให้รู้จักกัปตันทีมผู้ไม่เคยมีคำว่ายอมแพ้อยู่ในหัวอย่างโออิคาวะ โทรุ

ฮารุอิจิ ฟุรุดาเตะ
และเรื่องราวกว่าจะมาเป็น Haikyu!!

     สงสัยอยู่ล่ะสิว่าเราเอาภาพตัวการ์ตูนชูสองนิ้วยิ้มยิงฟันมาให้ดูทำไม นั่นก็เพราะนักเขียนที่เราจะพาไปรู้จักคนนี้ยังไม่เคยเปิดเผยตัวตนว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นใคร หน้าตาเป็นอย่างไร (แน่นอนว่าฮารุอิจิ ฟุรุดาเตะ ก็ไม่ใช่ชื่อจริงของเขาด้วย…) มีก็แต่รูปวาดรูปนี้เท่านั้นที่ใช้แทนตัวตนออกมาให้นักอ่านได้ยลโฉมกัน 

     ชื่อก็ไม่ใช่ชื่อจริง หน้าตาเป็นยังไงก็ไม่มีใครรู้ เพราะงั้นข้อความที่คุณกำลังจะอ่านต่อไปในย่อหน้านี้ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้!? (บ้าน่ะ) แต่ถ้าข้อมูลบนกูเกิลไม่ได้สับขาหลอกเรา ฮารุอิจิ ฟุรุดาเตะ คือนักเขียนมังงะชาวญี่ปุ่น เกิดวันที่ 7 มีนาคม 1983 ที่เมืองคารุไม จังหวัดอิวาเตะ ก่อนจะย้ายมาจังหวัดมิยางิเพื่อเข้าเรียนวิทยาลัยออกแบบเซ็นได ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเรียนการสอนเกี่ยวกับมังงะและแอนิเมชั่น 

     หลังจบการศึกษา ฟุรุดาเตะเริ่มต้นอาชีพนักวาดการ์ตูนด้วยการเขียนเรื่องสั้น King Kid (2008) ตีพิมพ์ลงนิตยสาร Weekly Shonen Jump และคว้ารางวัล JUMP Treasure Newcomer Award ประจำปี 2008 ไปครอง ตามมาด้วย Playground (2009) และ A Ghost of Senior Yotsuya (2010) แต่น่าเสียดายที่สองเรื่องนี้ผลตอบรับไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จนกระทั่งปี 2012 Haikyu!! (ซึ่งมีความหมายตรงตัวเลยว่าวอลเลย์บอล) มังงะเกี่ยวกับกีฬาวอลเลย์บอลได้ตีพิมพ์ออกมา ชื่อเสียงของเขาและการ์ตูนเรื่องนี้ก็ดังเป็นพลุแตกในวงการการ์ตูนญี่ปุ่น รวมถึงสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่แก่วงการวอลเลย์บอลญี่ปุ่นที่ซบเซาให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง 

     จากรายงานของสื่ออย่าง NHK พบว่าตั้งแต่ Haikyu!! ตีพิมพ์ เด็กรุ่นใหม่หันมาเล่นกีฬาชนิดนี้มากกว่าแต่ก่อน จำนวนนักวอลเลย์บอลชายในระดับมัธยมปลายเพิ่มขึ้นเป็น 44,000 คนจาก 37,000 คนในระยะเวลาไม่กี่ปี อีกทั้งหลังจากเนื้อเรื่องเดินทางมาถึงตอนจบในปี 2020 มีการเปิดเผยว่ายอดขายฉบับรวมเล่มของการ์ตูนเรื่องนี้สูงถึง 50 ล้านเล่มทั่วโลกเลยทีเดียว (ถ้าใครอยากอ่านสามารถหาซื้อฉบับแปลไทยได้ที่สำนักพิมพ์ Siam Inter Comics) แต่นอกจากยอดขายที่ถล่มทลายแล้ว Haikyu!! ก็ยังคว้ารางวัลมังงะสาขาโชเน็นยอดเยี่ยมจากเวที Shogakukan Manga Award ครั้งที่ 61 ไปครองได้ด้วย หรือแม้แต่เพลงประกอบแอนิเมชั่นก็ยังถูกนำมาเปิดเพื่อสร้างความฮึกเหิมให้แก่นักกีฬาระหว่างการแข่งขันวอลเลย์บอลในรายการโอลิมปิกซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโตเกียวในปี 2021 ที่ผ่านมาอีกต่างหาก

     ถ้าใครยังไม่เคยอ่าน เราขอเล่าสั้นๆ ว่า Haikyu!! คือการ์ตูนที่บอกเล่าเรื่องราวของ ‘ฮินาตะ โชโย’ เด็กหนุ่มผู้หลงใหลในกีฬาวอลเลย์บอล หลังจากเห็น ‘ยักษ์จิ๋ว’ ผู้เล่นของทีมมัธยมปลายคาราสึโนะเปล่งประกายบนสนามการแข่งขัน เขาจึงตัดสินใจเข้าเรียนที่โรงเรียนคาราสึโนะ และทำให้เจ้าตัวได้เจอกับ ‘คาเงยามะ โทบิโอะ’ ผู้เล่นอัจฉริยะซึ่งเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ด้านวอลเลย์บอลอันน่าทึ่ง ทั้งสองจะต้องพบกับบททดสอบแห่งมิตรภาพ การแข่งขันสุดท้าทาย และคู่แข่งจากโรงเรียนต่างๆ ที่จะมาร่วมเดินทางไปพร้อมกันตลอดเส้นทางการแข่งขัน (โดยเราเคยแนะนำหนังสือให้เหล่าตัวละครไว้ในนี้ด้วยแหละ)

     ว่ากันว่าจุดเริ่มต้นของการเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับศึกลูกยางนั้นเกิดมาจากความชื่นชอบส่วนตัวของผู้เขียน โดยสมัยมัธยมปลาย ฟุรุดาเตะเคยเป็นสมาชิกชมรมวอลเลย์บอล และลงเล่นในตำแหน่งตัวบล็อกกลาง (Middle Blocker) แม้ว่าจะเปลี่ยนมาอยู่ในเส้นทางอาชีพของนักวาดการ์ตูนแล้ว แต่ฟุรุดาเตะก็ยังไม่ลืมทุกความหลงใหลที่มีต่อกีฬาชนิดนี้ เรื่องราวของ Haikyu!! จึงถูกถ่ายทอดออกมาผ่านประสบการณ์ตลอดชีวิตและความรักในกีฬาลูกยางของเขา 

     ทุกกลยุทธ์ที่อยู่ในเรื่องเป็นเทคนิคที่ใช้ได้จริงในสนาม ทุกตัวละครที่สร้างจากจินตนาการก็ล้วนเต็มไปด้วยความรักและความฝันอันยิ่งใหญ่ต่อกีฬาวอลเลย์บอล ขนาดที่ทำให้คนอ่านหลายๆ คนอยากเอาใจช่วยพวกเขาในทุกการแข่งขัน ถึงแม้ว่าตัวละครตัวนั้นจะไม่ใช่ตัวละครหลักของเรื่องอย่างทีมโรงเรียนคาราสึโนะก็ตาม 

     หนึ่งในนั้นก็คือโออิคาวะ โทรุ กัปตันทีมโรงเรียนอาโอบะโจไซ (เซย์โจ) ผู้เล่นตำแหน่งเซตเตอร์ที่ฝันอยากเอาชนะพวกอัจริยะบนสนามวอลเลย์บอล ผู้ที่ติดโพลตัวละครในดวงใจของคนอ่าน Haikyu!! มาอย่างยาวนาน 

โออิคาวะ โทรุ
ผู้เล่นหมายเลขหนึ่งที่ไม่เคยเป็นที่หนึ่ง

     การปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกของโออิคาวะ โทรุ ผู้เล่นตำแหน่งเซตเตอร์หมายเลข 1 ของโรงเรียนอาโอบะโจไซ ทีมตัวเต็งของจังหวัด นอกจากจะมาพร้อมกับใบหน้าอันหล่อเหลาชวนให้ทุกคนตกหลุมรัก (ขึ้นไม่ไหว เธอใช่มั้ยเป็นคนผลักชั้น >_<) เขายังพกพาความสามารถอันเก่งกาจที่ทำให้ทั้งทีมคาราสึโนะต้องขวัญผวามาอีกด้วย ขนาดที่ผู้เล่นอัจฉริยะอย่างคาเงยามะยังเอ่ยปากเองว่า โออิคาวะเป็นผู้เล่นที่เจ้าตัวหวาดกลัวที่สุด 

     ประโยคดังกล่าวรวมกับการเปิดตัวในเรื่องที่ยิ่งใหญ่สมฉายา ‘มหาราชา’ เลยชวนให้เราคิดว่าเจ้าหมอนี่ก็คงเป็นอีกผู้เล่นที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในการเล่นวอลเลย์บอลเป็นแน่

     แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินต่อไป เบื้องหลังของโออิคาวะก็ถูกเปิดเผยออกมาว่า จริงๆ แล้วเขาไม่ใช่ผู้เล่นที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์หรือความอัจฉริยะ ทุกความสามารถและทักษะอันยอดเยี่ยมที่เราเห็นบนสนามนั้น ล้วนแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและหยดน้ำตาจากการฝึกฝนอย่างหนัก

     น่าเสียดายที่ถึงแม้ว่าจะเก่งจนเป็นที่ยอมรับขนาดไหน แต่โออิคาวะก็ไม่เคยไปไกลถึงการแข่งขันระดับประเทศเลย เพราะมีอีกหนึ่งผู้เล่นที่เป็นเหมือนอุปสรรคคอยขัดขวางชัยชนะของเขาอยู่เสมอ คนนั้นก็คืออุชิจิมะ วากะโทชิ ศัตรูอันดับ 1 จากทีมโรงเรียนชิราโทริซาวะ ผู้เล่นที่เกิดมาพร้อมกับความถนัดซ้ายที่ทำให้ลูกตบของเจ้าตัวมีพลังมหาศาลกว่าทุกคนบนสนามแข่ง 

เส้นทางของคนที่ไม่ได้เกิดมาพร้อมพรสวรรค์

     “โออิคาวะมีไหวพริบและไม่ขาดความพยายาม แต่เมื่อเปรียบเทียบเขากับคนที่มีพรสวรรค์อย่างคาเงยามะซึ่งอายุน้อยกว่าสองปี โออิคาวะเป็นผู้เล่นที่มีประสิทธิภาพแต่ไม่ใช่อัจฉริยะ”

     แค่ผู้เล่นมากพรสวรรค์อย่างอุชิจิมะคนเดียวก็สร้างความลำบากใจให้มากพอแล้ว นี่ยังมีคาเงยามะ อดีตรุ่นน้องสมัยมัธยมต้นมาอีก! ตลอดเส้นทางวอลเลย์บอลของผู้เล่นหมายเลขหนึ่งคนนี้จึงรายล้อมไปด้วยเหล่าคนอัจฉริยะที่เป็นเหมือนกำแพงสูงใหญ่ที่ทำให้เขาข้ามไปไม่ถึงฝั่งฝันสักที 

     เผื่อใครไม่รู้เบื้องหลังระหว่างโออิคาวะและคาเงยามะ เราขอเล่าแบบรวบรัดให้ฟังว่า ทั้งสองเคยอยู่ชมรมวอลเลย์บอลด้วยกันสมัยมัธยมต้น หลังจากต้องแพ้ให้กับโรงเรียนชิราโทริซาวะที่มีลูกตบทรงพลังของอุชิจิมะมาโดยตลอด ทำให้โออิคาวะเกลียดพวกผู้เล่นอัจฉริยะเข้าไส้ เพราะมันทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ว่าจะฝึกซ้อมมากแค่ไหน ก็ดูเหมือนไม่มีทางที่จะชนะคนเหล่านี้ได้เลย ซึ่งในขณะที่เขากำลังวิ่งตามหลังอุชิจิมะ รุ่นน้องในชมรมเดียวกันที่มากพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมอย่างคาเงยามะก็กำลังวิ่งตามหลังมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้เจ้าตัวเริ่มหมดหวังกับความฝันบนเส้นทางวอลเลย์บอลของตัวเองทีละน้อย

     “คิดว่ามีกำแพงที่ไม่อาจก้าวข้ามขวางกั้นระหว่างตัวนายกับผู้ที่เหนือกว่าในบางด้านตั้งแต่วันที่เกิดมาหรือเปล่า หรือมีคนที่เก่งกาจเพียงใดก็ข้ามไปไม่ได้ เอาไว้ค่อยทำหลังจากที่พยายามอย่างเต็มที่แล้วเถอะ”

     แต่ด้วยคำพูดปลุกใจจากโค้ชประจำทีม และกำลังใจจากอิวะอิสึมิ ฮาจิเมะ คู่หูที่อยู่เคียงข้างกันมาตั้งแต่เด็ก ทำให้โออิคาวะลุกขึ้นสู้ได้อีกครั้ง พร้อมกับความเชื่อที่ว่า ‘พรสวรรค์คือสิ่งที่ต้องทำให้เบ่งบาน สัญชาตญาณคือสิ่งที่ต้องขัดเกลา’ ประโยคสุดแมสจากกัปตันทีมเซย์โจที่หลายๆ คนปรินต์แปะผนังห้องนอน เพื่อคอยเตือนใจตัวเองว่า ถ้าเราไม่ได้เกิดมาเป็นคนมีพรสวรรค์ ก็แค่พยายามสร้างไอ้พรสวรรค์นั้นขึ้นมาซะสิ!

     หลังจากนั้นโออิคาวะจึงเก็บความผิดหวังทั้งหมดมาเป็นพลังในการฝึกซ้อม ฝึกซ้อม และฝึกซ้อม โดยหวังว่าวันหนึ่งความพยายามของตนจะสามารถทลายกำแพงที่เรียกว่าพรสวรรค์ได้สักที ความอยากเอาชนะพวกอัจฉริยะวอลเลย์บอลในตัวผู้เล่นคนนี้มีมากเสียจนประกาศกร้าวต่อหน้าคาเงยามะในศึกแรกของคาราสึโนะกับเซย์โจเลยว่า “ฉันอยากจะจัดการรุ่นน้องที่แสน ‘น่ารัก’ ของฉันให้ราบคาบ” (ให้ตายสิ นี่ชั้นกำลังยิ้มอยู่เหรอเนี่ย) 

     และเพื่อที่จะจัดการเหล่าอัจฉริยะ นอกจากจะพัฒนาทักษะของตัวเองแล้ว โออิคาวะยังมุ่งมั่นที่จะดึงศักยภาพของคนในทีมออกมาให้มากที่สุดอีกด้วย ตามคำพูดของอิวะอิสึมิที่บอกว่า “วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่เล่นกัน 6 คน ถ้าพยายามที่จะสู้ตัวต่อตัวกับคนเหล่านั้น ยังไงก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะได้หรอก” ในฐานะกัปตันและเซตเตอร์ของทีม เขาจึงพยายามสร้างกลยุทธ์เฉพาะที่เหมาะกับอาโอบะโจไซ เซตลูกตามจังหวะที่ดีที่สุดให้แก่ผู้เล่นแต่ละคนที่แตกต่างกัน เพื่อกลายเป็นทีมที่ไร้เทียมทาน ล้มทุกทีมที่ขวางหน้า และไปคว้าชัยชนะระดับประเทศมาให้จงได้!

     ด้วยศักยภาพของความเป็นทีมที่มากกว่า ทำให้ศึกแรกระหว่างคาราสึโนะกับเซย์โจ กลายเป็นทีมของผู้ไร้พรสวรรค์อย่างโออิคาวะที่กำชัยชนะเหนือคาเงยามะและทีมคาราสึโนะ แต่วินาทีที่ชนะนั้นกลับไม่ได้สร้างความยินดีใดๆ ให้แก่เซตเตอร์คนนี้เลย นอกจากแรงกดดันมหาศาลที่ถาโถมเข้ามา เพราะเจ้าตัวรู้ดีกว่าใครว่าหลังจากเผชิญกับความพ่ายแพ้ ความพยายามอยากเอาชนะในตัวคาเงยามะจะต้องเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เคย และแน่นอนว่าเมื่อพรสวรรค์รวมร่างกับความพยายาม ก็อาจจะทำให้รุ่นน้องคนนี้ออกวิ่งนำหน้าเขาไปได้ในที่สุด

     ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ในศึกล้างตาระหว่างคาราสึโนะกับอาโอบะโจไซที่ทำให้น้ำตาของเซย์โจสแตนอย่างเราไหลออกมาแบบหยุดไม่อยู่ เพราะชัยชนะที่ตกไปอยู่กับทีมอีกา (a.k.a. คาราสึโนะ) ทำให้เส้นทางวอลเลย์บอลของคนที่ไม่ได้เกิดมาพร้อมพรสวรรค์อย่างโออิคาวะต้องพบเจอกับความผิดหวังอีกครา ถึงแม้ว่าจะสร้างทีมที่ดีสุด ดึงศักยภาพของผู้เล่นทุกคนที่ยืนอยู่บนสนามออกมามากที่สุด หรือวิ่งไล่ตามลูกบอลอย่างเร็วที่สุดจนออกไปไกลนอกสนาม ผู้เล่นเซตเตอร์คนนี้ได้ทำทุกวิถีทางที่จะสามารถทำได้หมดแล้ว แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะทลายกำแพงพรสวรรค์ที่ขวางกั้นเขาไว้อยู่ดี ตอกย้ำแผลใจไปอีกว่าไม่ว่าเจ้าตัวจะพยายามมากมายขนาดไหน ความฝันที่อยากไปยืนอยู่ในการแข่งระดับประเทศสักครั้งของเขา ก็จะยังเป็นเพียงความฝันต่อไป… (สปอนฯ ทิชชู่เข้าหน่อยค่า T_T)

เพราะไม่ว่าจะล้มอีกสักกี่ครั้ง ฉันก็จะลุกขึ้นมาใหม่

คำเตือน: มีการเปิดเผยตอนจบของเรื่อง

     “แทนที่จะยอมแพ้ไปง่ายๆ เพียงเพราะว่าตัวเองไม่ใช่อัจฉริยะ จงเชื่อว่าศักยภาพของตัวเองไม่ได้มีแค่นี้และออกวิ่งไปให้สุดแรง แม้ทางข้างหน้าจะยากลำบากเพียงใดก็ตาม”

     การพบเจอกับความผิดหวังมาตลอดชีวิตคงทำให้หลายคนยอมแพ้ต่อความฝันของตัวเอง แต่ไม่ใช่กับผู้ชายที่ชื่อว่าโออิคาวะ โทรุ แม้ว่าการแข่งขันระดับประเทศที่ญี่ปุ่นจะไม่มีพื้นที่ให้กับผู้เล่นเซตเตอร์คนนี้ได้แสดงศักยภาพ แต่ความรักที่เขามีต่อกีฬาวอลเลย์บอลก็ได้นำพาเขาไปสู่อีกฟากนึงของโลก ห่างไกลจากบ้านเกิด ละทิ้งสัญชาติเดิม และก้าวสู่การเป็นผู้เล่นให้กับลีกอาร์เจนตินา เพื่อทำตามสิ่งที่เขาฝันและรักมาทั้งชีวิต นั่นคือการได้ยืนอยู่บนสนามวอลเลย์บอลแบบนี้ตลอดไป

     กล่าวได้ว่าทุกความพ่ายแพ้ ความผิดหวัง และหยดน้ำตาที่เสียไปได้กลายมาเป็นแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ให้แก่คนธรรมดาไร้พรสวรรค์คนนี้ ทำให้เขาพยายามก้าวข้ามขีดความสามารถของตนเอง และลบทุกความเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะไม่มีทางชนะสิ่งที่เรียกว่า ‘อัจฉริยะ’ จนในที่สุดชื่อของโออิคาวะ โทรุ ก็ได้ปรากฏในการแข่งขันโอลิมปิก ปี 2021 ฐานะผู้เล่นตำแหน่งเซตเตอร์ของทีมชาติอาร์เจนตินา เผชิญหน้ากับทีมชาติญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยเหล่าอัจฉริยะที่เขาเคยพ่ายแพ้มาก่อน

     “วันที่พรสวรรค์ของเราจะเปล่งประกาย อาจจะเป็นวันนี้ พรุ่งนี้ ปีนี้ ปีหน้า หรือจนกว่าจะอายุ 30 แต่ถ้าไม่ยอมแพ้ก็จะมีวันนั้นแน่นอน”

     สุดท้ายแล้วไม่ว่าปลายทางของการไขว่คว้าความฝันจะจบลงเช่นไร แต่ตลอดเวลาของการโลดแล่นบนสนามวอลเลย์บอลของตัวละครที่ชื่อว่าโออิคาวะ โทรุ ก็ทำให้เราภูมิใจกับทุกความพยายามของผู้แพ้ที่ไม่เคยยอมแพ้คนนี้ ซึ่งในวันที่ Haikyu!! เดินทางมาถึงตอนสุดท้าย เราก็เชื่อว่าเรื่องราวของโออิคาวะจะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนที่ต้องการทำตามความฝันของตัวเองต่อไป แม้หนทางข้างหน้าจะยากลำบากแค่ไหนก็ตาม 

     แด่โออิคาวะ โทรุ ตัวละครที่จะมีตัวตนอยู่จริงในหัวใจของหญิงสาวคนนี้ตลอดไป ขอบคุณฟุรุดาเตะ ฮารุอิจิ ที่สร้างสรรค์ตัวละครตัวนี้เพื่อมาเป็นกำลังใจให้เราในวันที่ท้อแท้ต่อความฝันอยู่เสมอมา เลยจะขอปิดท้ายบทความด้วยประโยคสั้นๆ ที่อยากบอกให้โออิคาวะซังได้รับรู้ว่า “พี่คะ หนูมีเรื่องจะบอกพี่ คือหนูชอบพี่มาก ชอบมาสามปีแล้ว หนูทำทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่างก็เพื่อพี่ หนู… ไปคัดเลือกนางรำ เล่นละครเวที ไปเป็นดรัมเมเยอร์ เขียนบทความชิ้นนี้ขึ้นมาก็เพื่อพี่ แต่ตอนนี้หนูรู้แล้วว่า สิ่งที่หนูควรจะทำมากที่สุดและน่าจะทำมาตั้งนานแล้ว คือบอกกับพี่ตรงๆ ว่า หนูชอบพี่ค่ะ” (เชื่อเถอะว่านี่สั้นแล้ว)

ที่มาข้อมูล
ไฮคิว!! คู่ตบฟ้าประทาน (เล่ม1-45)
• haikyuu.fandom.com/wiki/Haruichi_Furudate
• haikyuu.fandom.com/wiki/Tōru_Oikawa
• mainstand.co.th/MS2021HaikyuManga001