Fri 25 Aug 2023

DIRECTED BY WOMEN

เดต้าของภาพยนตร์ 13 เรื่องที่กำกับโดยผู้กำกับหญิง

     Barbie ขึ้นแท่นอันดับ 1 ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดทั่วโลกที่กำกับโดยผู้กำกับหญิง อีกทั้งยังได้รับคะแนนรีวิวจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ไปมากถึง 88% แต่จริงๆ แล้ว ยังมีภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้กำกับหญิงซึ่งประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์อีกมาก

     คอลัมน์ Data Journalread ประจำเดือนนี้จึงอยากพาไปสำรวจภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้หญิง 13 เรื่อง โดยภาพยนตร์ที่ได้รับคะแนนรีวิวสูงอาจไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ทำรายได้มากนัก ขณะเดียวกันภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงก็อาจจะไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ได้รับคำวิจารณ์ไปในทิศทางบวก  

     คอลัมน์ตอนนี้ถูกอธิบายผ่าน ‘Bubble Chart’ เป็นชาร์ตที่แสดงปริมาณบนจุดตัดของแกน X และ Y

     แกน X แสดงปีที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ ปล่อยออกมา

     แกน Y แสดงคะแนนรีวิวจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes

     ขนาดของมะเขือเทศคือรายได้ทั่วโลกของภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ แสดงผลด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยิ่งมะเขือเทศผลใหญ่แปลว่าทำรายได้ได้เยอะ

     สีของมะเขือเทศคือประเภทของหนัง 

     สีแดง—หนังดราม่า
     สีส้ม—หนังคอเมดี้
     สีโอลด์โรส—แอนิเมชั่น
     สีชมพู—หนังอัตชีวประวัติ
     สีม่วง—หนังแนวแอ็กชัน

     อ่านถึงตรงนี้อาจเริ่มสับสน ขอให้ทุกคนซ้อมอ่านก่อนเข้าเนื้อหาจริงสักหนึ่งรอบ

     วิธีการอ่านก็เหมือนดูกราฟปกติ แต่สามารถเห็นปริมาณของสิ่งหนึ่งเพิ่มเข้ามาด้วย เช่น ในปี 202x ภาพยนตร์แนวดราม่า-คอเมดี้ เรื่อง XXXX ทำรายได้ 1,000,000,000 (หนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ได้คะแนนรีวิวจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ไป 70% เป็นต้น

     เราเลือกภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้หญิงมาสี่เรื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้ออกฉายระหว่างปี 2000-2009 ดำเนินเรื่องโดยมีตัวละครหญิงเป็นศูนย์กลาง ทั้งผู้หญิงเหงาๆ ในเมืองที่ไม่คุ้นเคย ราชินีองค์สุดท้ายของฝรั่งเศส เด็กสาวชาวอิหร่านในยุคสงครามอิรัก 

Lost in Translation
กำกับ: โซเฟีย คอปโปลา (Sofia Coppola) 
ปีที่ฉาย: 2003
คะแนนรีวิว: 95%
รายได้ทั่วโลก: 118,686,937 USD

     Lost in Translation เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเหงาของหนุ่มวัยกลางคนกับสาวเพิ่งจบใหม่กลางเมืองที่พวกเขาไม่คุ้นเคยอย่างโตเกียว ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และทำให้คอปโปลาเป็นผู้กำกับหญิงอเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ ถึงจะพลาดรางวัลทั้งสองสาขา แต่สุดท้ายก็คว้ารางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมกลับไป

Marie Antoinette
กำกับ: โซเฟีย คอปโปลา
ปีที่ฉาย: 2006
คะแนนรีวิว: 58%
รายได้ทั่วโลก: 60,917,189 USD

     Marie Antoinette เรื่องราวเกี่ยวกับพระราชินีองค์สุดท้ายของประเทศฝรั่งเศส กำกับโดยโซเฟีย คอปโปลา เหมือนเดิม แต่คะแนนรีวิวและรายได้แตกต่างกับหนังเรื่องก่อนหน้าไม่ใช่น้อย ถึงอย่างนั้นถ้าพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะนึกถึงงานอาร์ตไดเรกชั่นที่แตกต่างจากภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เรื่องอื่นๆ คอปโปลานำเสนอพระนางมารี อ็องตัวเน็ตด้วยวิชวลที่สดใส สีชมพู สีพาสเทลอ่อน และดนตรีป๊อปร็อก! ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีสไตล์ที่ชัดเจน แตกต่างจากภาพยนตร์อัตชีวประวัติเรื่องอื่นๆ

Persepolis
กำกับ: มาร์จอเน่ ซาทราพิ (Marjane Satrapi)
ปีที่ฉาย: 2007
คะแนนรีวิว: 96%
รายได้ทั่วโลก: 22,783,978 USD

     Persepolis แอนิเมชั่นชีวประวัติที่สร้างจากกราฟิกโนเวลเล่าเรื่องราวของซาทราพิ หญิงสาวที่เติบโตมาในประเทศอิหร่านยุคปฏิวัติอิสลาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม เข้าชิงและกวาดรางวัลมากมาย โดยหนึ่งในนั้นคือรางวัล Jury Prize จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ประจำปี 2007 

The Hurt Locker
กำกับ: แคธรีน บิเกโลว์ (Kathryn Bigelow)
ปีที่ฉาย: 2008
คะแนนรีวิว: 97%
รายได้ทั่วโลก: 49,259,766 USD

     The Hurt Locker หรือ หน่วยระห่ำ ปลอดล็อกระเบิดโลก เป็นหนังที่อ่านชื่อแล้วอาจรู้สึกเหมือนว่ากำกับโดยชายแท้วัยบูมเมอร์ แต่จริงๆ แล้ว The Hurt Lockker กำกับโดยผู้หญิง และภาพยนตร์ว่าด้วยหน่วยกู้ระเบิดในสงครามอิรักซึ่งทำหน้าที่กู้ระเบิดตามจุดที่ต้องสงสัยต่างๆ ก็ทำให้บิเกโลว์กลายเป็นผู้กำกับหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม

     ปี 2010-2017 เป็นปีที่ภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้หญิงมีความหลากหลาย เริ่มจากการสำรวจชีวิตของเด็กสาวที่ทุกคนคิดว่าเธอเป็นเด็กผู้ชาย แอนิเมชั่นเจ้าหญิงที่ไม่พูดเรื่องรักแรกพบ และวัยรุ่นสาวที่เบื่อทุกอย่างแม้กระทั่งตัวเอง

Tomboy
กำกับ: เซลีน เซียมมา (Céline Sciamma)
ปีที่ฉาย: 2011
คะแนนรีวิว: 96%
รายได้ทั่วโลก: 1,437,501 USD

     Tomboy ดำเนินเรื่องผ่าน ลอเร เด็กสาววัย 10 ขวบ ที่ผู้คนในละแวกบ้านใหม่คิดว่าเธอเป็นเด็กผู้ชาย และเธอก็สนุกกับการแกล้งว่าตัวเองคือเด็กผู้ชายจริงๆ ในชื่อ ไมเคิล ไม่มีใครเห็นความแตกต่างของเธอ จุดเด่นของเซียมมาคือการพาคนดูไปสำรวจช่วงเวลาในการเติบโตของคนคนหนึ่งขณะตกหลุมรัก ช่วงเวลาที่เขาเริ่มสนใจกัน ช่วงเวลาที่มีความรักให้กัน จนไปถึงช่วงเวลาที่ต้องจากลา ซึ่งความละเอียดและวิธีมองภาพรวมเหล่านี้เป็นเรื่องยากสำหรับผู้กำกับชาย

Frozen
กำกับ (ร่วม): เจนนิเฟอร์ ลี (Jennifer Lee)
ปีที่ฉาย: 2013
คะแนนรีวิว: 90%
รายได้ทั่วโลก: 1,284,540,518 USD

     คงไม่ต้องพูดอะไรเยอะสำหรับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ Frozen เล่าเรื่องที่แตกต่างและเสียดสีเจ้าหญิงดิสนีย์ก่อนหน้าทั้งหมด รักแรกพบของ แอนนา อาจเป็นภาพลวงตา ความรักที่แท้จริงมาจากคนในรอบครอบครัว ไปจนถึงการโอบรับสิ่งที่ตัวเองเป็นของ เอลซ่า Frozen เข้าชิงและกวาดรางวัลมากมาย โดยหนึ่งในนั้นคือรางวัลแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ในปี 2014

Lady Bird
กำกับ: เกรตา เกอร์วิก (Greta Gerwig)
ปีที่ฉาย: 2017
คะแนนรีวิว: 99%
รายได้ทั่วโลก: 78,986,478 USD

     หนัง Coming of Age ว่าด้วยชีวิตสุดแสนจะน่าเบื่อของ เลดี้ เบิร์ด เด็กสาวผู้เบื่อครอบครัว เบื่อโรงเรียน เบื่อเมืองที่เธอโตมา เบื่อแม้กระทั่งตัวเอง เธอจึงตัดสินใจจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่นิวยอร์ก แต่แล้วชีวิตแสนจะน่าเบื่อของเลดี้ เบิร์ดก็น่าตื่นเต้นขึ้นมา เพราะครอบครัวของเธอประสบปัญหาด้านการเงิน และไม่มีเงินสานฝันเธอให้เป็นจริงได้ แม้จะมีผลงานกำกับมาแล้วก่อนหน้า แต่ Lady Bird ถือเป็นผลงานสร้างชื่อในวงกว้างให้กับเกอร์วิก กวาดทั้งรายได้ คำชม และรางวัลไปมากมาย อีกทั้งยังพา เซอร์ซา โรนัน (Saoirse Ronan) เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงบนเวทีออสการ์ 2018

     ในช่วง 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้หญิงเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น พวกเธอกล้าเล่าในเรื่องที่ผู้กำกับชายไม่กล้าทำ 

Can You Ever Forgive Me?
กำกับ: มาเรียลล์ เฮลเลอร์ (Marielle Heller)
ปีที่ฉาย: 2018
คะแนนรีวิว: 98%
รายได้ทั่วโลก: 12,442,161 USD

     Can You Ever Forgive Me? สร้างจากเหตุการณ์จริงในปี 1991 เล่าเรื่องของ ลี อิสราเอล นักเขียนชีวประวัติคนดังวัย 50 ปี เธอเคยประสบความสำเร็จ แต่ปัจจุบันกลับมีชีวิตตกต่ำ ถูกไล่ออกจากงานประจำ หนังสือขายไม่ดี เขียนหนังสือไม่ออก ติดเหล้า ชีวิตคู่ล้มเหลว และมีหนี้สินเต็มตัว เธอจึงตัดสินใจกระทำอาชญากรรมบางอย่างเพื่อให้เธอดำรงชีวิตได้ต่อไป ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้คะแนนรีวิวไปสูงถึง 98% เข้าชิงออสการ์ถึงสามสาขา ได้แก่ บทภาพยนตร์ดัดแปลง นักแสดงนำหญิง และนักแสดงสมทบชาย

Portrait of A Lady On Fire
กำกับ: เซลีน เซียมมา
ปีที่ฉาย: 2019
คะแนนรีวิว: 97%
รายได้ทั่วโลก: 10,019,521 USD

     ผลงานล่าสุดของเซียมมาที่โดดเด่นเรื่องความรู้สึกและการค้นหาตัวตนของตัวละครเพศหญิงใน Portrait of A Lady On Fire ว่าด้วยความสัมพันธ์ของ มาริยง จิตรกรสาวที่ถูกส่งมาวาดภาพดูตัวของ เอโลอิส ให้แก่เจ้าบ่าวคนหนึ่ง แต่เอโลอิสไม่ยอมถูกวาดภาพโดยง่าย เนื่องจากเธอปฏิเสธที่จะถูกจับคลุมถุงชน มาริยงจึงต้องแสร้งทำเป็นเพื่อนเดินเล่นและจดจำรายละเอียดใบหน้า ท่าทางของเอโลอิสเพื่อกลับมาวาดภาพเพียงลำพังในยามค่ำคืน และนี่เป็นอีกครั้งที่งานของเซียมมาจับใจคนดูได้อยู่หมัด ภาพยนตร์เรื่องนี้ส่งให้เธอคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมือคานส์มาได้

Kajillionaire
กำกับ: มิแรนดา จูลาย (Miranda July)
ปีที่ฉาย: 2020
คะแนนรีวิว: 90%
รายได้ทั่วโลก: 1,285,775 USD

     Kajilionaire เล่าถึงปัญหาคนชายขอบในสังคมที่หากินด้วยการลักเล็กขโมยน้อย และตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ของครอบครัว กำกับโดย มิแรนดา จูลาย ผู้เขียน No One Belongs Here More Than You (ซึ่งให้เสียงภาษาไทยโดยแซลมอนบุ๊กส์) ถึงแม้ว่ารายได้จะน้อยนิด เป็นหนังอินดี้ดูกันในวงแคบๆ แต่กลับได้คะแนนรีวิวไปมากถึง 90%

CODA
กำกับ: ฌาน เฮเดอร์ (Sian Heder)
ปีที่ฉาย: 2021
คะแนนรีวิว: 94%
รายได้ทั่วโลก: 1,905,058 USD

     เล่าเรื่องของ รูบี เด็กสาวผู้มีพรสวรรค์ในการร้องเพลงที่เติบโตมาในครอบครัวคนหูหนวก คนในบ้านจึงไม่รู้ถึงพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมของเธอ ถึงแม้ว่า CODA จะทำรายได้ทั่วโลกไปแค่ 1,905,058 ดอลลาร์สหรัฐ เพราะที่อเมริกาฉายในระบบสตรีมมิ่ง แต่ก็สามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ปี 2021 มาครอบครอง

Turning Red
กำกับ: โดมี ฉี (Domee Shi)
ปีที่ฉาย: 2022
คะแนนรีวิว: 95%
รายได้ทั่วโลก: 20,122,621 USD

     แอนิเมชั่นจากพิกซาร์ที่กำกับโดยผู้หญิงเอเชียคนแรก เรื่องราว Coming of Age ของสาวน้อยที่พออารมณ์แปรปรวนจะกลายร่างเป็นแพนด้าแดง ได้คำวิจารณ์ในแง่บวกไปถึง 95% แต่น่าเสียดายที่ภาพยนตร์เข้าฉายช่วงโควิด-19 ระบาด จึงทำรายได้น้อยกว่ามาตราฐานของพิกซาร์ (แอนิเมชั่นดีมากจริงๆ เชียร์ให้ไปดูกันใน Disney+)

Barbie
กำกับ: เกรตา เกอร์วิก
ปีที่ฉาย: 2023
คะแนนรีวิว: 88%
รายได้ทั่วโลก: 1,288,914,650 USD

     คงไม่ต้องพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้มากนัก เพราะทุกคนน่าจะได้ดูกันเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ขอพูดถึงนิดหน่อยว่าเกอร์วิกอธิบายเรื่อง ‘เฟมินิสต์’ และ ‘ปิตาธิปไตย’ ผ่าน บาร์บี้ และ เคน ที่เข้ามามีชีวิตบนโลกจริงได้อย่างสนุกสนาน ทำให้ Barbie ได้รับคะแนนรีวิวไปถึง 88% ทำรายได้ทั่วโลก 1,288,914,650 USD และยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดประจำปี 2023 ละส่งให้เกอร์วิกเป็นผู้กำกับหญิงคนแรกที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือ

     จริงอยู่ว่าภาพยนตร์ที่ได้รับคะแนนรีวิวสูงอาจไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ทำรายได้มากนัก ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงก็อาจไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ได้รับคำวิจารณ์ไปในทิศทางบวก 

     แต่ท่ามกลางภาพยนตร์มากมายเหล่านั้น ก็มีภาพยนตร์ที่ได้รับคะแนนรีวิวยอดเยี่ยมไปพร้อมๆ กับทำรายได้มากมายและกำกับโดยผู้หญิงอยู่ด้วย

     ว่าแต่ทุกคนมีภาพยนตร์โปรดที่กำกับโดยผู้หญิงบ้างมั้ย

อ้างอิง:

editorial.rottentomatoes.com/guide/best-movies-directed-by-women-of-the-21st-century/2/
variety.com/2023/film/box-office/barbie-global-box-office-record-oppenheimer-results-1235695070/
collider.com/highest-grossing-movies-directed-by-women/
insider.com/highest-grossing-movies-by-women-female-directors-2023-8#1-frozen-ii-2019-6