ยังไงฉันก็จะเลิกงานตรงเวลาค่ะ : I Will Not Work Overtime
Kaeruko Akeno เขียน
ฉัตรขวัญ อดิศัย แปล
สำนักพิมพ์ Bibli

     เราเพิ่งทำงานประจำครบหนึ่งปีอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายปีก่อน นอกจากการเติบโตขึ้นในฐานะคนทำคอนเทนต์แล้ว อีกสิ่งที่เราภูมิใจในตัวเองมากคือการไม่พยายามทำงานตอนดึกและช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ได้สำเร็จ ดังนั้นทันทีที่เห็นหนังสือ ‘ยังไงฉันก็จะเลิกงานตรงเวลาค่ะ’ เราก็รู้เลยว่านี่มันหนังสือที่เกิดมาเพื่อฉันชัดๆ

     นิยายชื่อโดนใจเล่มนี้เล่าเรื่องของ ‘ฮิงาชิมะ ยุย’ สาวออฟฟิศผู้มีความหลังฝังใจจากพ่อผู้บ้างาน เธอจึงสาบานตนว่าจะเลิกงานให้ตรงเวลาเพื่อไปให้ทันช่วง Happy Hour โปรโมชั่นเบียร์ลดราคาและกลับไปนอนดูรายการทีวีที่ชอบให้ได้ในทุกวัน แต่วันดีคืนดีปณิธานของยุยก็ต้องสั่นคลอน เมื่อเจ้านายบ้าพลังคนใหม่มาพร้อมกับโปรเจกต์สุดยิ่งใหญ่อันมีงบประมาณจำกัด แถมคนในทีมของเธอยังเห็นดีเห็นงาม ยอมถวายตัวทำงานหนัก ยุยจึงตัดสินใจรับตำแหน่งหัวหน้าของโครงการสุดโหด เพื่อทำให้งานนี้สำเร็จโดยที่ทุกคนได้เลิกงานตรงเวลา!

     เรารู้ว่าคนญี่ปุ่นทำงานหนักจากคำบอกเล่าต่างๆ นานา ประกอบกับประสบการณ์ดูซีรีส์ญี่ปุ่นแนวทำงานออฟฟิศไปหนึ่งเรื่องถ้วน ซึ่งพออ่านหนังสือเล่มนี้จึงได้รู้ว่าไม่ใช่แค่ทำงานหนักเฉยๆ แต่พวกเขาจริงจังชนิดที่ว่า Work-Life Balance คืออะไร ไม่รู้จัก บริษัทเท่านั้นคือเป้าหมายอันดับหนึ่ง เล่นเอาขนลุกไปหมดพอคิดว่าตัวเองต้องไปอยู่ในจุดนั้น

     ถือเป็นนิยายที่เล่าเรื่องการทำงานได้เข้มข้นและสมจริงมาก มีการสะท้อนประเด็นความกลัวการไม่ก้าวหน้า ความกลัวความไม่มั่นคง สังคมปิตาธิปไตย (ที่อ่านแล้วกำหมัด อยากพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อ) ไปจนถึงการตั้งคำถามว่าเราทำงานไปเพื่ออะไร แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะอ่านแล้วปวดสมองเพิ่มขึ้น เพราะคนเขียนเล่าเรื่องสนุกมาก คาแรกเตอร์แต่ละคนหาได้จริงในออฟฟิศเลยทำให้เรารีเลตได้ง่าย และแอบมีโมเมนต์โรแมนติกแทรกมาเป็นระยะ 

     แม้จะสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการ Work-Life Balance 300% แต่ก็ยอมรับว่าแอบมีบางครั้งที่คิดขึ้นมาว่าเราทำงานมากพอแล้วเหรอถึงไปพัก เมื่ออ่านเล่มนี้จบเหมือนได้ปลดล็อกเลย เพราะเรารู้แล้วว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ ถ้ามีงานก็ทำไป แต่ถ้าอยากพักก็ไปพักเลย เอาล่ะค่ะทุกท่านพูดพร้อมกันสามครั้งว่า ‘ชีวิตเป็นของเรา งานเป็นของบริษัท’ เริ่มเลอ