ALICE IN BORDERLAND
ลงทะเบียนเล่น 6 เกมโหดใน ‘Alice in Borderland’ ซีซั่น 1
เรื่อง: สุชานาถ กิตติสุรินทร์
ภาพ: ms.midsummer
จะเป็นอย่างไรถ้าวันหนึ่งเราหลุดเข้าไปในโลกแห่งเกม ต้องทำภารกิจ สะสมไอเทมให้ครบ แล้วจึงผ่านด่านต่อไป
ฟังดูแล้วก็น่าจะสนุกดี แต่ถ้าเกมนี้เดิมพันด้วยชีวิต แพ้เท่ากับตาย ยังจะสนุกอยู่ไหม
นั่นคือคอนเซปต์ของ Alice in Borderland หรือ อลิสในแดนมรณะ ผลงานมังงะของ ‘ฮาโระ อาโสะ’ (Haro Aso) ที่ตีพิมพ์ในปี 2010-2016 ออกมาทั้งหมด 18 เล่ม (ฉบับภาษาไทยแปลโดยสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ) ก่อนจะถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์ในปี 2020 โดย Netflix ซึ่งได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกทั้งเรื่องบท การแสดง และงานภาพที่ตระการตาสุดๆ
ในวาระที่ซีซั่น 2 จะกลับมาสานต่อเรื่องราวในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ เราจึงหยิบคอลัมน์ SKIP INTRO มาปัดฝุ่น เล่าเรื่องของซีซั่น 1 ผ่านเกมต่างๆ ที่เป็นภารกิจหลักในเรื่อง เผื่อใครอยากดูซีซั่น 2 อ่านอันนี้จบก็พร้อมลุยทันที หากพร้อมแล้วล็อกอินมาร่วมเล่นเกมกันได้เลย
แนวเกมแบ่งเป็น 4 ประเภทตามหน้าไพ่ ได้แก่
♥️ (โพแดง): จิตวิทยา ความเชื่อใจ และการหักหลัง
♠️ (โพดำ): สมรรถภาพทางกาย ความแข็งแรง ความอดทน และความว่องไว
♦️ (ข้าวหลามตัด): ความฉลาด กลยุทธ์ และไหวพริบ
♣️ (ดอกจิก): ความสมดุลจากสามองค์ประกอบ และการทำงานเป็นทีม
ไพ่แต่ละหน้าแบ่งออกเป็นตัวเลขตั้งแต่ 1-10 แจ็ก ควีน และคิงเป็นระดับความยาก เมื่อผู้เล่นพิชิตด่านในเกมได้ก็จะได้รับไพ่ของภารกิจนั้นๆ และ ‘วีซ่า’ ซึ่งเป็นจำนวนวันที่จะอยู่รอดต่อไปได้ หากวีซ่าใกล้หมดก็ต้องมาร่วมเล่นเกมต่อ ถ้าปล่อยให้วีซ่าหมดอายุ Game ก็จะ Over ได้เช่นเดียวกัน
เกมที่ 1
อยู่หรือตาย
ระดับความยาก: ♣️♣️♣️
หลังจาก ‘อะริสุ’ (รับบทโดย เคนโตะ ยามาซากิ) หลุดเข้ามาใน Borderland ดินแดนที่เหมือนกับโลกใบเดิมทุกประการ ทว่ากลับไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เลย พร้อมกับ ‘คารุเบะ’ (รับบทโดย เคตะ มาจิดะ) และ ‘โจตะ’ (รับบทโดย ยูกิ โมรินางะ) เขาและเพื่อนๆ พยายามตามหาคนจนมาเจอตึกแห่งหนึ่ง และกลายมาเป็นผู้เข้าแข่งขันในเกมโดยไม่ได้ตั้งใจ
เกม ‘อยู่หรือตาย’ มีกติกาง่ายๆ คือผู้เล่นจะต้องเลือกประตูที่ถูกต้อง (ระหว่าง ‘อยู่’ หรือ ‘ตาย’) ภายในเวลาที่กำหนด เพื่อออกไปนอกตึก ทีแรกอะริสุและผองเพื่อนยังคิดว่ามันเป็นเกมธรรมดาๆ จนกระทั่งเด็กสาวที่บังเอิญมารวมกลุ่มกันชิงเลือกประตูบานแรกแล้วพบกับจุดจบอันน่าสยองไปก่อน พวกเขาจึงรู้ตัวว่าหากเลือกผิด ชีวิตฉิบหายแน่นอน
หลังจากใช้ดวงเปิดประตูถูกไปสองบาน อะริสุก็เริ่มรู้ว่าเกมนี้ออกแบบโดยใช้พื้นที่อาคารซึ่งมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส สร้างห้องขึ้นมา 9 ห้อง ทำให้เขารู้ว่าประตูไหนจะเชื่อมกับห้องที่ถูกต้อง และนำไปสู่การเคลียร์ภารกิจได้สำเร็จ
ในเกมนี้อะริสุและเพื่อนๆ ได้เจอกับ ‘ชิบุกิ’ (รับบทโดย อายาเมะ มิซากิ) หญิงสาวที่มาร่วมเล่นเกมและกลายเป็นเพื่อนร่วมทีมไปโดยปริยาย
เกมที่ 2
วิ่งไล่จับ
ระดับความยาก: ♠️♠️♠️♠️♠️
หลังจบเกมแรกโจตะได้รับบาดเจ็บที่ขา อะริสุและคุราเบะจึงตัดสินใจออกไปเล่นเกมกันสองคน เพื่อหาหมอมารักษาเพื่อน จนไปเจออพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งซึ่งมีเกม ‘วิ่งไล่จับ’ รออยู่
ในเกมนี้ผู้เล่นจะต้องวิ่งหนียักษ์และหาเซฟโซนให้เจอภายในเวลา 20 นาที หากหมดเวลาแล้วยังหาเซฟโซนไม่เจอ ระเบิดที่ซ่อนไว้ในตึกจะทำงาน
หากเป็นเกมวิ่งไล่จับธรรมดาก็คงไม่สมศักดิ์ศรี 5 โพดำ เพราะยักษ์ในเกมนี้ไม่ได้จับเป็น แต่จับตายเท่านั้น อะริสุสังเกตว่าคนที่เล่นเป็นยักษ์ต้องสวมหน้ากากทำให้มองเห็นลำบาก เขาจึงตัดสินใจขอความร่วมมือจากผู้เล่นคนอื่นๆ ช่วยกันตะโกนบอกตำแหน่งยักษ์ และหาเซฟโซนไปด้วยกัน
ระหว่างวิ่งหนียักษ์ คารุเบะและอะริสุได้เจอกับผู้เล่นอีก 3 คน คือ ‘อุซางิ’ (รับบทโดย ทาโอะ สึจิยะ) นักปีนเขาสาว ‘อากุนิ’ (รับบทโดย โช อาโอยากิ) พี่เบิ้มร่างบึ้ก และ ‘จิชิยะ’ (รับบทโดย นิจิโร่ มูราคามิ) หนุ่มท่าทางลึกลับ
คารุเบะร่วมมือกับอากุนิเบี่ยงเบนความสนใจยักษ์จนได้รับบาดเจ็บ อะริสุหาห้องเซฟโซนเจอ ทว่าห้องนี้ต้องใช้สองคนในการกดปุ่ม ระหว่างเสี้ยววินาทีเวลาแห่งความเป็นและความตาย อุซางิก็โผล่มาทันเวลาพอดีราวกับรู้ใจ
เมื่อหมดเวลา เกมก็เฉลยว่าจริงๆ แล้วยักษ์ก็เป็นผู้เล่นเหมือนกัน แต่ได้รับกติกาให้ฆ่าคนที่วิ่งหนีและปกป้องเซฟโซนไว้ ดังนั้นหากฝั่งอะริสุเคลียร์เกมได้ ยักษ์จะกลายเป็นฝ่ายแพ้
ก่อนกลับไปหาโจตะ คารุเบะเจอวิทยุสื่อสารพร้อมข้อความที่บอกว่าให้กลับไปยัง ‘เดอะบีช’
เกมที่ 3
เล่นซ่อนหา
ระดับความยาก: ♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️
วีซ่าของชิบุกิกับโจตะหมดอายุวันนี้ ทั้งสี่คนจึงต้องเข้าร่วมเกม ‘เล่นซ่อนหา’ ซึ่งมีกติกาว่าให้คนหนึ่งเป็นหมาป่า ส่วนอีกสามคนเป็นลูกแกะ คนที่ถูกหมาป่าเจอตัวต้องเป็นหมาป่าคนต่อไป เมื่อหมดเวลา 15 นาที ปลอกคอที่ลูกแกะสวมอยู่จะระเบิด เท่ากับว่าใครเป็นหมาป่าคนสุดท้ายคือผู้ชนะ
เรียกได้ว่าเป็นเกมจิตวิทยาของแท้ เพราะกฎของเกมกำหนดให้มีผู้ชนะเพียงคนเดียว สัญชาตญาณการเอาตัวรอดเลยพุ่งปรี๊ด เพียงพริบตาเดียวจากเพื่อนก็กลายเป็นศัตรู อะริสุพยายามบอกให้ทุกคนใจเย็นแล้วเขาจะหาทางแก้เหมือนเกมที่ผ่านมา แต่ชิบุกิมองว่าคนที่ควรได้เป็นหมาป่าคือคนที่อยากมีชีวิตต่อ จากนั้นก็ฟัดกันนัวๆ อะริสุได้เป็นหมาป่าก่อนจะหนีไปซ่อน
ระหว่างนั้นก็แฟลชแบ็กความทรงจำถึงชีวิตที่ผ่านมา การโดนดูถูกจากที่บ้าน ไร้เป้าหมายใดๆ ที่อยู่มาได้เพราะมีคารุเบะกับโจตะเป็นเพื่อน เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจจะเสียสละ ยอมเป็นลูกแกะในเกมนี้ ทว่าทั้งคารุเบะและโจตะต่างก็ยอมแพ้แล้วเช่นกัน ทั้งสองคนต่างรำลึกถึงความทรงจำที่สนุกสนานและไม่ยอมเผยตัวจากที่ซ่อน (โจตะจับตัวชิบุกิไว้)
จุดประสงค์ของเกมโพแดงคือแนวจิตวิทยาหักหลัง ใครได้เป็นหมาป่าคือผู้รอด เพื่อหาคนที่เห็นแก่ตัวที่สุดในกลุ่ม แต่อะริสุรู้สึกผิดอยู่เต็มอกจึงพยายามตามหาเพื่อนๆ ก่อนวินาทีสุดท้ายจะมาถึง เขาเจอกับคารุเบะที่ยืนสูบบุหรี่พร้อมบอกให้อะริสุมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้
ครบเวลา 15 นาที ระเบิดที่คอลูกแกะก็ทำงาน อะริสุผู้เป็นหมาป่าคนสุดท้ายคือผู้ชนะของเกมนี้
เกมที่ 4
ดิสแทนซ์
ระดับความยาก: ♣️♣️♣️♣️
หลังสูญเสียเพื่อนที่เป็นเสมือนครอบครัว อะริสุก็หมดอาลัยตายอยาก นอนอยู่กลางถนนจนอุซางิมาเจอ เธอทนเห็นสภาพเขาไม่ได้จึงช่วยพามายังที่พัก และเตือนสติให้อะริสุสู้กับเกมมรณะนี้ต่อไป
อะริสุกับอุซางิเดินทางมาถึงรถบัสบนทางด่วนที่จัดเกม ‘ดิสแทนซ์’ โดยให้ผู้เล่นอดทนกับการทดสอบและไปถึงเส้นชัยโดยสวัสดิภาพในสองชั่วโมง ทั้งคู่มาเจอผู้เล่นอีกสามคน ซึ่งมีคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่ขา เมื่อฟังกติกาเสร็จทั้งหมดก็เข้าใจว่าเป็นเกมที่ต้องวิ่งไปข้างหน้า คนเจ็บขารู้ตัวว่าวิ่งตามเพื่อนไม่ไหวจึงขอให้ทุกคนทิ้งเขาไว้บนรถ
เอ้า ออกมาวิ่ง วิ่งนะวิ่งนะแฮมทาโร่ไปได้ไม่นานก็เจอสัตว์ร้ายสกัดดาวรุ่ง มีคนตายไปอีกหนึ่ง ก่อนที่อะริสุจะสังเกตเห็นมอเตอร์ไซค์และถึงบางอ้อว่า อุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างในเกมนี้ล้วนพัง แต่ถ้าเป็นเครื่องยนต์ดีเซลหรือระบบแอนะล็อกจะยังคงทำงานได้ อะริสุจึงบอกให้อุซางิกับอีกคนวิ่งนำไปก่อน ส่วนเขาจะเข็นมอ’ไซค์กลับไปที่รถบัส ซ่อมระบบต่างๆ เสร็จแล้วจะรีบขับตามไป
เมื่ออุซางิวิ่งไปเรื่อยๆ เธอดันเจอกับทางตัน ก่อนจะเจอกับมวลมหาน้ำจนต้องวิ่งกลับไปทางเดิม ระหว่างนั้นอีกคนที่มาด้วยกันก็โดนน้ำซัดไปอีกหนึ่ง อุซางิวิ่งมาเจอกับรถบัสที่อะริสุขับมาพอดี จังหวะซีรีส์รักโรแมนติกก็เริ่มต้นขึ้น เธอจับมือฉันไว้! อุซางิขึ้นรถบัสทันเวลาก่อนที่ภาพทุกอย่างจะตัดไป
เวลาผ่านไปสักพัก อุซางิรู้สึกตัว เธอปลุกชายหนุ่มอีกสองคน แล้วทั้งสามก็ขึ้นมายืนบนข้างรถบัสที่เขียนว่า ‘เส้นชัย’ แปลว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเส้นชัยอยู่ที่จุดเริ่มต้นมาตลอด
อะริสุตัดสินใจว่าจะมีชีวิตต่อเพื่อหาทางไปยังเดอะบีช หรือชายหาดที่คารุเบะเคยพูดไว้ตอนหลังจบเกมที่สอง โดยหวังว่าที่นั่นจะมีเบาะแสของเกมนี้
เกมที่ 5
หลอดไฟ
ระดับความยาก: ♦️♦️♦️♦️
อะริสุกับอุซางิสังเกตว่ามีผู้เล่นบางคนสวมกุญแจล็อกเกอร์ที่ข้อมือ พวกเขาสะกดรอยตามผู้เล่นเหล่านั้นจนมาเจอเดอะบีช ก่อนจะถูกจับได้ และถูกเชิญชวนแกมบังคับให้เข้าร่วมทีม
‘คนขายหมวก’ (รับบทโดย โนบุอากิ คาเนโกะ) ผู้เป็นบอสของเดอะบีชคาดเดาว่า ผู้เล่นคือผู้ที่หลงมาติดอยู่ในประเทศหนึ่ง การจะออกไปได้ต้องรวบรวมไพ่ให้ครบ 52 ใบ เขาเชื่อว่าหากมีหนึ่งคนออกไปได้ คนที่เหลือก็จะค่อยๆ ทยอยออกไปได้เช่นกัน
กฎของเดอะบีชมีสามข้อ
หนึ่ง—ตอนอยู่ที่นี่ต้องสวมชุดว่ายน้ำเสมอ เพื่อไม่ให้ซ่อนอาวุธได้
สอง—ไพ่ทุกใบที่หาได้ถือเป็นสมบัติของบีช
สาม—คนทรยศต้องตาย
พอมีคนมารวมกันเยอะ เลยสามารถแบ่งทีมไปทำภารกิจได้หลากหลาย โดยเกมที่ปรากฏในช่วงนี้ ได้แก่ เกม ‘นักล่าสัตว์ร้าย’ ความยาก 6 โพดำ, ‘ลิฟต์มนุษย์’ ความยาก 2 โพดำ, ‘บิงโกโรงงานไม้ขีดไฟ’ ความยาก 10 ดอกจิก และ ‘หลอดไฟ’
ในเกมหลอดไฟ ผู้เล่นต้องหาสวิตช์ที่ใช้เปิดหลอดไฟให้เจอ โดยหลอดไฟจะอยู่ในห้องที่มีประตูล็อก หากเปิดประตูไว้จะสับสวิตช์ได้แค่ครั้งเดียว แต่ถ้าปิดประตูจะสับสวิตช์กี่ครั้งก็ได้ และผู้เล่นทั้งหมดต้องตอบในรูปแบบทีมเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ตอนแรกทุกคนจะเลือกเปิดประตูแล้วสับสวิตช์เอ หากไฟไม่ติดก็สุ่มคำตอบจากบีหรือซี แต่อะริสุเสนอให้ลองใช้วิธีปิดประตูแล้วสับสวิตช์ ก่อนจะเปิดประตูแล้วลองแตะหลอดไฟดู ถ้าหลอดไฟร้อน หมายความว่าสวิตช์นั้นคือคำตอบ
เป็นอีกครั้งที่การ์ดพระเอกทำงาน เทคนิคของอะริสุใช้ได้ดี และช่วยให้ทีมหาคำตอบที่ถูกต้องได้ อะริสุกลับมาที่เดอะบีช เจอกับอุซางิที่รอดมาได้เช่นกัน พวกเขาได้รับคำแนะนำจาก ‘คุอินะ’ (รับบทโดย อายะ อาซาฮินะ) สมาชิกบีชที่เจอกับอะริสุในเกมหลอดไฟ
คุอินะเล่าว่าในบีชแบ่งผู้ปกครองออกเป็นสองกลุ่มคือ ฝั่งใช้กำลังนำโดยอากุนิ (ที่อะริสุเคยเจอในเกมที่สอง) และฝั่งสาวกที่นำโดยคนขายหมวก ก่อนที่เธอและจิชิยะ (ที่เจอในเกมที่สองเช่นกัน) จะชวนให้อะริสุกับอุซางิเข้าแก๊งขโมยไพ่
เกมที่ 6
ล่าแม่มด
ระดับความยาก: ♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️
คนขายหมวกออกไปเล่นเกม ทว่าดันกลับมาแค่ร่าง เมื่อผู้นำสูงสุดตาย ฝั่งกองกำลังบังคับให้สาวกเลือกอากุนิขึ้นเป็นหัวหน้าคนใหม่
แก๊งขโมยไพ่ใช้จังหวะที่บีชกำลังระส่ำระส่ายวางแผนเข้าไปขโมยไพ่ โดยให้อะริสุเป็นคนเปิดตู้เซฟ ทว่ากลับเป็นแผนลวงของจิชิยะ อะริสุโดนจับได้ ถูกทรมาน และขังไว้ในห้อง แต่จิชิยะมองออกแล้วว่าไพ่ถูกซ่อนไว้ที่หลังรูป หลังจากทุกคนออกไป เขากับคุอินะก็ไปขโมยไพ่ และเตรียมหนีไปจากบีช ทว่ายังไม่ทันออกนอกประตู เกมใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ในห้องโถงมีศพของสาวน้อยถูกมีดเล่มโตปักอยู่บนอก ในเกม ‘ล่าแม่มด’ ผู้เล่นจะต้องหาตัวฆาตกรที่แฝงตัวอยู่ แล้วนำไปเผาด้วยไฟพิพากษาจึงจะถือว่าเคลียร์เกม
ด้วยสมองกล้ามเนื้อของอากุนิ เขาคิดว่าถ้าฆ่าทุกคนยกเว้นพวกตัวเองก็จะหาตัวแม่มดเจอ ดังนั้นจึงออกคำสั่งอนุญาตให้มีการสังหารหมู่
ขณะเดียวกัน อุซางิร่วมมือกับผู้เล่นคนอื่นช่วยกันหาตัวอะริสุที่ถูกขังไว้จนเจอ เธออธิบายเกมให้เขาฟัง อะริสุคิดว่าจุดมุ่งหมายของเกมโพแดงไม่ใช่การฆ่ากันอย่างแน่นอน อีกด้านหนึ่ง ‘อัน’ (รับบทโดย อายากะ มิโยชิ) ก็พยายามใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์หารอยนิ้วมือที่อยู่บนมีดเพื่อหาตัวแม่มด
เวลาใกล้หมดลง ผู้คนที่รอดจากการสังหารหมู่มารวมตัวกันที่ห้องโถง อะริสุรู้ว่าการตายของคนขายหมวกเป็นฝีมือของอากุนิ ก่อนจะมีแฟลชแบ็กถึงความทรงจำของทั้งสองคนว่าเคยเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนาน ก่อตั้งบีชมาด้วยกัน แต่แล้ววันหนึ่งคนขายหมวกก็เริ่มถลำลึกในความคลั่ง เขาหันปืนไปหาอากุนิ ยังไม่ทันลั่นไกก็โดนอากุนิยิงสวน แต่ปรากฏว่าในปืนของคนขายหมวกไม่มีกระสุน อากุนิจึงรู้สึกผิดและเริ่มเสียสติ นำไปสู่การสังหารหมู่ระบายอารมณ์นั่นเอง
ระหว่างที่ความตึงเครียดเริ่มพุ่งสูง มีเด็กสาวคนหนึ่งเบี่ยงเบนความสนใจของอากุนิด้วยการประกาศตนเป็น ‘ดีลเลอร์’ ก่อนเธอจะถูกลำแสงพิฆาตจากฟากฟ้าผ่าลงกลางหัว และอันก็มาปรากฏตัวพร้อมรอยนิ้วมือบนมีด เป็นหลักฐานว่าแม่มดที่ฆ่าสาวน้อยคนนั้น คือตัวเธอเอง
บีชล่มสลายไปพร้อมกับเกมล่าแม่มด วันต่อมาอะริสุดูคลิปที่เด็กสาวถ่ายไว้ เธอเล่าว่าดีลเลอร์คือกลุ่มคนที่จัดการแข่งขัน ช่วยติดตั้งพื้นที่เกม บางทีก็เข้าร่วมเกมในฐานะยักษ์ (ในเกมที่สอง) หรือแฝงตัวกับผู้เล่น อะริสุและอุซางิตัดสินใจไปตามทางในคลิป ทว่าเมื่อไปถึงผู้คนในนั้นก็ถูกฆ่าหมดแล้ว
ที่นั่น ทั้งสองคนเจอกับคุอินะกับจิชายะที่มีไพ่ตัวเลขครบแล้ว ก่อนทุกคนจะได้รู้ว่ายังมีไพ่อีก 12 ใบที่พวกเขาต้องตามเก็บ นั่นคือไพ่หน้าคน ซึ่งเป็นภารกิจที่เหล่าผู้เล่นต้องเผชิญในซีซั่นที่ 2 ต่อไป ใครที่รอมาสองปี (เหมือนเรา) ก็เตรียมเข้าสู่ด่านสุดท้ายพร้อมกันได้ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้!