Thu 01 Dec 2022

FOOTBALL VOCABULARY

ศัพท์ขาหลอก รู้จักคำศัพท์แมนๆ เตะบอลกันครับ

ภาพ: ms.midsummer

     ฟุตบอลโลก 2022 ตะบันแข้งกันจนจบรอบแบ่งกลุ่ม มีทั้งทีมม้ามืดผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ทั้งทีมเต็งจ๋าที่ต้องเก็บของกลับบ้านแบบพลิกล็อกกันน่าดูถล่มทลาย

     เปิดเรื่องมาแบบนี้ไม่ใช่ว่าเราจะมาให้ทัศนะ แจกทีเด็ด ฟันธงล้มโต๊ะ หรือชวนเดาว่าใครจะเป็นแชมป์โลกปีนี้นะ แต่เพราะช่วงนี้มีข่าวและถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกทุกวัน พลันสายตาก็เห็นคำศัพท์น่าสนใจจากข่าวและคอมเมนต์ของคอบอล ส่วนหูก็ได้ยินคำเฉพาะทางที่นักพากย์พูดกันตลอดทั้งเกมอีก

     เราจึงรวบรวมและหาที่มาที่ไปของคำศัพท์จากเกมฟุตบอลมาเล่าให้ทุกคนฟัง ว่าทีมเต็งมาจากอะไร ดาวซัลโวนี่คล้ายๆ กับดาวติ๊กต่อกมั้ย แล้วรถผ้าป่าคว่ำมันเกี่ยวกับฟุตบอลได้ยังไง? พร้อมลุยแล้วก็คิกออฟได้ในรูปต่อไปเลย

ทีมเต็ง

     เริ่มจากคำเบสิกที่ทุกคนต้องได้ยินบ่อยๆ เพราะคำว่า ‘ทีมเต็ง’ หรือ ‘ตัวเต็ง’ เป็นคำที่ได้ยินจากข่าวกีฬาทุกชนิด ความหมายก็คือ ทีมหรือคนที่ทำผลงานได้ดี ผู้คนคาดหวังว่าจะเป็นแชมป์ของการแข่งขันครั้งนั้นๆ 

     แต่จริงๆ แล้วคำว่า ‘เต็ง’ มีที่มาจาก ‘ตาเต็ง’ ตาชั่งชนิดหนึ่งของจีนที่มีถาดห้อยอยู่ด้านหนึ่ง โดยมีตุ้มถ่วงน้ำหนักเลื่อนไปมาเพื่อชั่งน้ำหนัก เมื่อชั่งได้น้ำหนักพอดีกับที่ต้องการ ก็จะเรียกว่า ‘ได้เต็ง’ หรือ ‘เต็มเต็ง’ (เป็นที่มาของการเรียกคนสติไม่สมประกอบว่า ‘ไม่เต็มเต็ง’ ด้วยนะ)

     ต่อมาจึงนำไปใช้ในกีฬาแข่งม้า โดยม้าที่ดูทรงแล้วมีโอกาสชนะมากกว่าตัวอื่น ดูมีน้ำหนักและราศีแห่งม้าแชมป์ ก็จะถูกเรียกว่า ‘ม้าเต็ง’

     ทีนี้ก็คงจะพอเดาได้เนอะว่า ‘หวยเต็ง’ ที่หลายคนซื้อกันก็มีที่มาจากตาชั่งจีนตัวนี้แหละ

ดาวซัลโว

     ถ้าได้ยินคำว่า ‘ดาวซัลโว’ จากการถ่ายทอดสดฟุตบอล หรือข่าวฟุตบอล ก็อย่าเพิ่งคิดไปว่านักเตะคนนี้ลีลาดีเหมือนดาวเต้นติ๊กต่อกล่ะ 

     สมมติว่าไม่เคยดูบอลมาก่อน แต่พอจะรู้จักคำว่า ‘Salvo’ ในภาษาอังกฤษอยู่บ้าง ก็คงพอเดาบริบทได้ เพราะมันแปลว่า ระดมยิงปืนใหญ่ ยิงครั้งเดียวจากปืนหลายกระบอกพร้อมๆ กัน 

     ในข่าวฟุตบอลภาษาอังกฤษจึงมักใช้คำว่า Salvo แทนการยิงประตูของนักฟุตบอล ส่วนคำว่าดาวซัลโวนั้นน่าจะเป็นการเล่นคำของนักข่าวกีฬาบ้านเรา ที่ใช้เรียกผู้เล่นที่ทำประตูมากที่สุดในรายการแข่งขันครั้งนั้น แต่จะว่าไปก็มีความหมายคล้ายๆ ดาวติ๊กต่อกอยู่นะเนี่ย

พับสนาม

     ลองนึกภาพสนามฟุตบอลที่ตีเส้นแบ่งกึ่งกลางไว้แล้วจู่ๆ สนามก็พับครึ่ง เหลือประตูให้ยิงกันแค่ฝั่งเดียว คุณคิดว่าเกมการแข่งขันจะเป็นยังไง

     คำว่า ‘พับสนาม’ ก็มีที่มาจากการนึกภาพแบบนี้แหละ คนพากย์ฟุตบอลมักจะใช้บรรยายเวลาที่แมตช์นั้นมีทีมใดทีมหนึ่งบุกอยู่ฝ่ายเดียว บุกจนอีกฝ่ายโงหัวไม่ขึ้น พยายามจะพาบอลไปอีกฝั่งหนึ่งก็ไม่เคยสำเร็จ จนดูเหมือนเล่นฟุตบอลกันแค่ครึ่งสนาม 

รถบัส

     ถ้าได้ยินเพื่อนที่ดูบอลบ่นรำพึงประมาณว่า “แม่งเอ๊ย เจอแผนรถบัสเข้าไปแบบนี้บุกไม่เข้าเลย” ก็อย่าได้คิดว่าอีกทีมแอบไปปล่อยลมยางรถบัสของทีมคู่แข่ง หรือแอบจ้างคนขับรถบัสอีกทีมไปส่งผิดสนามนะ

     เพราะรถบัสในที่นี้ไม่ใช่ยานพาหนะ แต่เป็นคำอธิบายถึงวิธีการเล่นของทีมฟุตบอลที่เน้นตั้งรับ ซึ่งก็ไม่ใช่ตั้งรับแบบปกติ เพราะนี่คือการตั้งรับแบบไปยืนออกันหน้าประตูฝั่งตัวเอง เพื่อบังทางไม่ให้คู่แข่งยิงประตูได้นั่นเอง

     ถ้าแผนการนี้เป็นฝั่งเอเชียคิดค้นขึ้น ก็คงได้ตั้งชื่อทำนองว่าค่ายกลสิบแปดอรหันต์แหละ แต่เผอิญว่าแผนการนี้มาจากฝั่งยุโรป เขาเลยเปรียบว่าแผนนี้คือการ ‘Park the Bus’ แปลตรงตัวก็คือ การจอดรถบัสขวางไว้หน้าประตู 

     โดยโค้ชที่ใช้แผนนี้เป็นคนแรกๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้คิดค้นแผนนี้ก็คือ ‘โชเซ่ มูรินโญ่’ (Jose Mourinho) ผู้จัดการทีมชื่อดังที่เคยคุมทั้งอินเตอร์ มิลาน, รีล มาดริด, เชลซี รวมถึงแมนฯ ยูไนเต็ด ปัจจุบันคุมทีมโรม่าแห่งกัลโช เซเรีย อา ประเทศอิตาลี 

คลีนชีต

     กลับมาที่คำทับศัพท์กันบ้าง ถือเป็นสแลงที่คนพากย์ฟุตบอลใช้บ่อยๆ ในข่าวกีฬาก็เห็นอยู่ประจำ โดยเป็นคำใช้เรียกสถานการณ์ที่ทีมฟุตบอล (หรืออาจจะเน้นไปที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู) สามารถป้องกันได้ดีจนคู่แข่งไม่สามารถทำประตูได้ 

     ยกตัวอย่างเช่น ทีม A เอาชนะ ทีม B ด้วยสกอร์ 0-3 คนพากย์ก็อาจจะพูดว่า “ทีม A เอาชนะไปได้อย่างสวยงาม พร้อมกับรักษาคลีนชีตไว้ได้อีกหนึ่งแมตช์ครับ”

     ส่วนที่มาของคำว่า ‘คลีนชีต’ (clean sheet) ก็คือ สมัยก่อนนักข่าวภาคสนามจะต้องจดข้อมูล สถิติ และผลการแข่งขันลงในกระดาษเพื่อนำกลับไปรายงานข่าว ดังนั้นถ้ามีทีมที่ยิงประตูไม่ได้ ในกระดาษรายงานก็จะขาวสะอาด เพราะไม่มีชื่อผู้ทำประตูเขียนลงไปนั่นเอง

รถผ้าป่าคว่ำ

     ศัพท์นี้จะบอกว่าเกี่ยวกับฟุตบอลโดยตรงก็ไม่เชิง เพราะมักจะเป็นศัพท์ที่แฟนบอล ‘นั ก ล ง ทุ น’ ใช้กันมากกว่า

     สั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ เป็นศัพท์ที่ใช้อธิบายเวลามีการแข่งขันฟุตบอล แล้วมีหนึ่งทีมที่ฟอร์มดีมากๆ ระดับห่างชั้นกับทีมคู่แข่ง ทำให้แฟนบอลนักลงทุนจำนวนมากมั่นใจและรวมตัวเทเงินไปกับทีมนั้นๆ 

     แต่อนิจจาผลลัพธ์ไม่เป็นใจ ทีมที่มั่นใจดันแพ้ จึงเหมือนกับว่าแฟนบอลนักลงทุนพากันขึ้นรถจะไปรับผลบุญ แต่ไปไม่ถึงจุดหมาย คว่ำเทกระจาดระหว่างทางเสียก่อน

จอดำ

     คำสุดท้ายอาจไม่เกี่ยวกับฟุตบอลซะทีเดียว แต่น่าจะเกี่ยวกับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในประเทศไทยมากกว่า 

     จริงๆ ก็ไม่ต้องอธิบาย เพราะหลายคนคงเจอประสบการณ์ ‘จอดำ’ ที่จริงๆ ก็ไม่ดำหรอก แค่พอถึงช่วงเวลาบอลเตะก็มีข้อความขึ้นมา 4-5 บรรทัด ใจความคือดูไม่ได้ เพราะเขาไม่ให้ฉายผ่านช่องนี้ ทั้งๆ ที่ก็ใช้เงินส่วนรวมจ่ายไปก็ไม่น้อย แต่ไม่รู้ทำสัญญากันอีท่าไหนถึงเป็นแบบนี้ 

     เฮ้อ แบบนี้ต้องเรียกว่าใจดำที่แท้ทรู

ขอบคุณ

     ใครที่ดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปีนี้ก็คงรู้ว่า ‘ขอบคุณ’ ในที่นี้คือการขอบคุณใคร 

     แต่ก็นั่นล่ะ พอได้ยินบ่อยๆ เข้าก็ต้องมีงงกันบ้างว่า เอ๊ะ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดครั้งนี้ซื้อมาด้วยเงินส่วนกลางกับภาคเอกชนอีกสองสามเจ้านะ ทำไมต้องขอบคุณ ‘เขา’ นักหนา จ่ายเองก็ไม่ใช่ ถ้าลงเงินคนเดียวเต็มๆ เหมือนตอนบอลยูโรครั้งก่อนที่แบรนด์แอโร่ซอฟต์จัดเต็ม ใส่เดี่ยว แบบนั้นจะไม่ว่าเลย

     ไปๆ มาๆ ไม่ได้อธิบายศัพท์แล้วแฮะ ขอลาไปเล่นเกมตีป้อมฆ่าเวลารอเชียร์บอลดีกว่า ขอให้มีความสุขกับการดูบอลโลกครับ