Tue 31 May 2022

IDOL WRITE

เมื่อไอดอลวางไมค์มาจับปากกา เปิดลิสต์หนังสือที่ #ไอดอลเขียน

ภาพ: ms.midsummer

     ก่อนหน้านี้เราคงคุ้นเคยกันดีกับ #ไอดอลอ่าน ที่เหล่าแฟนคลับนักอ่านของแต่ละด้อมมาแชร์กันว่าไอดอลของตัวเองอ่านหนังสือเล่มไหนกันบ้าง จนแฮชแท็กนี้เป็นกระแสโด่งดังชนิดที่ว่าเดินเข้าร้านหรืองานหนังสือเมื่อไหร่ จะต้องเห็นป้ายหน้าศิลปิน พร้อมป้าย #จินยองอ่าน #แจบอมอ่าน #มินฮยอนอ่าน #ไอรีนอ่าน ไปจนถึง #บังทันอ่าน เป็นสิ่งดึงดูดใจ 

     แฮชแท็กเหล่านี้ไม่เพียงบอกให้รู้ว่าหนังสือเล่มนั้นเป็นยังไง มีไอดอลคนไหนอ่านบ้าง แต่แฟนคลับหลายคนยังบอกว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเปิดใจและกลับมาอ่านหนังสือมากขึ้นกว่าเก่าด้วย 

     แต่รู้ไหมว่าบางทีไอดอลก็ไม่ได้อ่านอย่างเดียวนะ หลายคนก็ผันตัวไปจับปากกา เดบิวต์เป็นนักเขียนกันแล้ว

     แถมวงการหนังสือของเกาหลีก็มีหลากหลาย นอกจากอัตชีวประวัติทั่วไปแบบที่ศิลปินนิยมกัน ‘ลี ฮงกิ’ (Lee Hongki) วง FTISLAND ยังเคยออกหนังสือรวมลายเล็บ หรือแม้แต่ ‘คิม ฮีชอล’ (Kim Heechul) วง SUPER JUNIOR ก็มีหนังสือรวมร้านราเมนสุดโปรดของเขาเหมือนกัน 

     ว่าแต่ ยังมีไอดอลคนไหนเขียนหนังสือเกี่ยวกับอะไรอีกบ้าง เรารวมมาให้ตามไปอ่านกันต่ออีก 8 เล่ม และแม้ส่วนใหญ่จะเป็นฉบับภาษาเกาหลี ยังไม่มีแปลเป็นภาษาไทย แต่ของแบบนี้ซื้อเก็บไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะใครๆ ก็ใช้ใจอ่านกันทั้งนั้นแหละ!

아끼고아낀말 (Words Kept Cherished) – Jeong Sewoon 

     เริ่มต้นเล่มแรกด้วยหนังสือของ ‘จอง เซอุน’ (Jeong Sewoon) ศิลปินเดี่ยวจากค่าย Starship Entertainment เด็กฝึกผู้เคยเข้าร่วมแข่งขันในรายการเซอร์ไววัลยอดนิยมอย่าง Produce 101 Season 2 

     หลังจบรายการ เซอุนเดบิวต์เป็นศิลปินเดี่ยวที่ตอนนี้ออกอัลบั้มมาแล้วห้าอัลบั้ม และแทบทั้งหมดคือเพลงที่เขามีส่วนร่วมแต่งเนื้อร้องและทำนองเอง (ขอตั้งแผงขายนิดนึง เพิ่งคัมแบ็ก 555) แต่นอกจากบทบาทศิลปิน เขายังโชว์ความสามารถด้านดีเจให้เห็นบ่อยๆ ในรายการวิทยุ และบางครั้งก็มีเซสชั่นพิเศษอย่าง ‘Sewoon To Me Now’ ที่จัดขึ้นมาเพื่อแชร์เพลงและพูดคุยกับแฟนคลับโดยตรง ด้วยแง่มุมความคิดที่เขาแสดงออกมาผ่านเนื้อเพลงและการตอบคำถามถึงเรื่องต่างๆ ในชีวิต เป็นที่ปรึกษาให้แฟนคลับได้อย่างดี การเขียนหนังสือจึงเป็นเรื่องที่แฟนๆ แอบหวัง และคิดว่าเขาคงทำออกมาได้ดีไม่แพ้การเป็นศิลปิน 

     เนื้อเพลงส่วนใหญ่ของเซอุนมักเขียนถึงความกังวลของวัยรุ่นเกี่ยวกับเส้นทางชีวิตข้างหน้าที่ยังมาไม่ถึง กลัวและรู้สึกว่าตัวเองอ่อนด้อยประสบการณ์เกินกว่าจะผ่านเรื่องราวที่เข้ามาท้าทายในปัจจุบันไปได้ แต่ใจหนึ่งก็ตื่นเต้นและรอคอยที่จะใช้ชีวิตไปอย่างเต็มที่ หลังได้รับคำชวนจากสำนักพิมพ์ แม้จะกังวลกับบทบาทใหม่ แต่เขาก็รับคำและปลุกปั้นออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ หนังสือที่เป็นเหมือนไดอารี่บันทึกถึงช่วงวัยรุ่น วัยที่เปล่งประกายอย่างสดใส แต่ก็สั่นไหวไปกับเรื่องราวต่างๆ ที่เจอได้โดยง่าย 

     ด้านในอัดแน่นไปด้วยประโยคขนาดสั้น ที่บันทึกความรู้สึกของเซอุนต่อช่วงเวลาต่างๆ จำนวน 100 บทความ รูปภาพที่เซอุนถ่ายเองจำนวน 100 รูป และเพลงที่เขาฟังบ่อยๆ ขณะบันทึกความคิดเหล่านั้นจำนวน 100 เพลง ด้วยหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะสามารถช่วยปลอบประโลมใจวัยรุ่นคนอื่นๆ ที่กำลังก้าวผ่านช่วงเวลาแบบนี้อยู่เหมือนกัน 

다 그런 건 아니야 – Kang Minhyuk

     หลังโปรยเสน่ห์ให้แฟนๆ หลงรักในฐานะมือกลองวง CNBLUE มาเนิ่นนาน 13 ปี การวางไม้กลองมาควงปากกา เดบิวต์เป็นนักเขียนท่านหนึ่งของ ‘คัง มินฮยอก’ (Kang Minhyuk) คงทำให้บอยซ์ (ชื่อแฟนคลับของ CNBLUE) ตื่นเต้นกันยกใหญ่! 

     มินฮยอกเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นโดยหยิบยกเอาเรื่องราวรอบตัวที่อาจเคยมองข้ามไป มาเรียบเรียงและลองมองในมุมใหม่ๆ ที่บ้างก็ชวนให้ขำ บ้างก็ทำให้ย้อนกลับไปคิดว่า เอ้อ คิดมุมนี้ได้ด้วยเหรอ ผ่านภาษาเกาหลีง่ายๆ คนที่พอจะมีพื้นฐานภาษาเกาหลีมาบ้างน่าจะสามารถอ่านได้ 

     อย่างบทหนึ่งที่เราพยายามอ่าน (แบบมีกูเกิลทรานสเลตช่วย) แล้วรู้สึกว่าก็ตลกดี (แหละมั้ง) คือบทที่มินฮยอกเล่าเป็นความเรียงบรรยายคล้ายผู้ชายคลั่งรักว่า

     “ทุกการสัมผัสของเธอทำให้ผมลืมตาตื่น 

     แค่การลูบไล้เบาๆ ก็ทำให้ผมกระวนกระวายจนแทบบ้า 

     แต่เมื่อผมพยายามจะไขว่คว้าเธอมา กลับกลายเป็นว่าอะไรๆ ก็สายไปเสียแล้ว 

     สัมผัสพวกนั้น สร้างบาดแผลให้ผมซ้ำๆ 

     ฤดูร้อนนี้ผมนอนไม่หลับเพราะเธออีกแล้ว

     –

     เจ้ายุง”

애정하는 사람 – Minseo

     มาต่อกันที่หนังสือของ ‘มินซอ’ (Minseo) ศิลปินและนักแสดงแห่งค่าย APOP Entertainment ผู้เข้าร่วมแข่งขันรายการ Superstar K7 ในปี 2015 

     มินซอเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นในฐานะคนธรรมดาที่อยากแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวและมุมมองที่เธอมีต่อการใช้ชีวิต เธอเปิดเผยความคิดแง่ลบที่มีต่อตัวเองให้นักอ่านรู้อย่างจริงใจ และเล่าถึงวิธีที่ตัวเองใช้โอบกอดความผิดหวังและความรู้สึกไม่ดีเหล่านั้น เพื่อเติบโตไปเป็นคนที่ยอมรับตัวเองได้ดีมากขึ้น

     ในชีวิตของคนเราคงจะมีสักครั้งที่ทุกข์ทรมานจากความรู้สึกเกลียดตัวเอง ขณะเดียวกันก็อาจจะเคยร้องไห้คิดว่าตัวเองช่างน่าสงสารกว่าใครๆ มินซอบอกว่าบางครั้งคนเราก็รู้สึกอย่างนั้นได้ และที่เป็นแบบนั้นอาจเป็นเพราะเรารักตัวเองมากๆ ก็ได้

     “ไม่ว่าเราจะรู้สึกย่ำแย่สักแค่ไหน จำไว้ว่ายังมีคนที่รักเราอยู่เสมอ คนรัก เพื่อน และครอบครัว เพราะคนเหล่านี้อาจทำให้เราสามารถหัวเราะและก้าวผ่านช่วงเวลาแบบนั้นได้ 

     “แต่ฉันอยากให้คุณจำไว้ มี ‘ฉัน’ อยู่ในคนเหล่านั้นเสมอ คนที่รักฉันมากกว่าใครๆ ก็คือฉันเสมอมา 

     “ฉันเชื่อว่าสักวันหนึ่งเราทุกคนจะพบความสุขของตัวเอง ตราบเท่าที่เราอยู่กับตัวเอง คนที่เรารักมากที่สุด”

     หนังสือเล่มนี้จึงเป็นความเรียงที่อ่านแล้วจะทำให้เรารักตัวเองมากขึ้น หรืออย่างน้อยที่สุดก็ช่วยเพิ่ม self-esteem ให้คนอ่านอย่างเราๆ ไม่โบยตีตัวเองจนเกินไป

Pieces of You – Tablo

     หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าแรปเปอร์อย่าง ‘ทาโบล’ (Tablo) จบปริญญาตรีและโทด้านอักษรศาสตร์ เกียรตินิยม ภายในเวลาเพียงสามปีครึ่งจากมหาวิทยาลัยสแตนด์ฟอร์ด และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นผลงานที่เขียนไว้ก่อนเขาจะเดบิวต์ในฐานะลีดเดอร์วง Epik High ซะอีก!

     Pieces of You คือสิบเรื่องสั้นสะท้อนสิ่งที่อาจเคยเกิดขึ้นกับเราทุกคนในวัยเยาว์ ความลับ ความวิตกกังวล ปมปัญหาที่เก็บซ่อนอยู่ในใจ หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนคำปลอบประโลมใจให้ทุกคนที่กำลังโดดเดี่ยวจากการต่อสู้และหลงทางระหว่างการเติบโต

     ลี บยองรยูล (Lee Byung-ryul) ผู้เขียนหนังสือ Attraction เขียนถึงหนังสือเล่มนี้ไว้ว่า นวนิยายเรื่องนี้เป็นมากกว่าหนังสือของคนดัง เพราะมันทำให้เขาย้อนคิดถึงช่วงวัยยี่สิบของตัวเอง และทำให้เห็นว่าตอนนี้เขาเปลี่ยนไปจากตอนนั้นแค่ไหน เขาสามารถจินตนาการเห็นเด็กหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ ที่ต้องเผชิญกับความสับสน ความเหงา และความวิตกกังวลของช่วงวัย 

     “เรื่องสั้นของทาโบลเป็นเหมือนมืออุ่นๆ ที่คอยตบบ่าผู้คนที่กำลังหลงทาง หรือกำลังเฆี่ยนตีตัวเอง คำพูดที่เขาร้อยเรียงออกมาแต่ละบรรทัดส่งผลต่อหัวใจคนอ่าน, ขอบคุณที่เขาตัดสินใจแบ่งปันเรื่องนี้ต่อคนทั้งโลก”

     เวลาที่หัวใจเจ็บปวดหรือรู้สึกโดดเดี่ยว หากเปิดหนังสือเล่มนี้อ่าน จะพบว่าไม่ใช่แค่หนุ่มสาวอย่างเราที่รู้สึกอย่างนั้นในเวลานี้ แต่ทาโบลเองก็เคยผ่านมาแล้วเหมือนกัน

     นอกจากนี้ เขายังมีหนังสืออีกเล่มที่ชื่อว่า Blonote ภายในรวบรวมถ้อยคำมาจากสิ่งที่เขาพูดไว้ในรายการวิทยุที่เคยจัดด้วย ซึ่งทั้งสองเล่มมีเวอร์ชั่นภาษาไทย ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ไจไจนะ

Shine – Jessica Jung

     พูดถึง #ไอดอลเขียน จะขาด ‘เจสสิก้า จอง’ (Jessica Jung) อดีตสมาชิกวง Girls’ Generation ไปได้ยังไง ในเมื่อ Shine นวนิยายเล่มแรกของเธอเคยมียอดขายติดอันดับ 5 หนังสือขายดีของ The New York Times มาแล้ว

     หากจะบอกว่า Shine เป็นหนังสือที่มีเค้าโครงมาจากชีวิตของเจสสิก้าก็คงไม่ผิดนัก เพราะเนื้อเรื่องเล่าถึงเรื่องราวชีวิตของ ‘เรเชล’ สาวลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกันที่บินลัดฟ้ามาตามฝัน พยายามจะเดบิวต์เป็นไอดอลในประเทศเกาหลีใต้ให้ได้

     เรื่องราวในหนังสือสะท้อนให้เห็นเบื้องลึกเบื้องหลังของวงการ ที่แม้จะบอกว่าเป็นเรื่องแต่ง แต่ก็ทำให้เราเห็นชีวิตและความรู้สึกที่เด็กฝึกต้องเจอ การต้องงัดแรงกายแรงใจมาพิสูจน์ความสามารถ พัฒนารูปลักษณ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไหนจะเรื่องหัวใจที่ต้องซ่อนเอาไว้ให้มิด!

     ใครอยากรู้ว่าลำบากแค่ไหนกว่าที่ไอดอลจะได้เป็นดาว Shine มีเวอร์ชั่นภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์มูกุงฮวา แต่หากอยากรู้เรื่องราวหนังสือเล่มนี้อีกนิด อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่นะ 

     ป.ล. เมื่อเร็วๆ นี้เจสสิก้าก็เพิ่งปล่อยหนังสือภาคต่อในชื่อ Bright ออกมาให้ได้จับจองกันด้วย

밤을 걷는 밤 – You Hee-yeol

     สำหรับ ‘ยู ฮียอล’ (You Hee-yeol) แม้เขาจะไม่ใช่ไอดอลแห่งยุคสมัยนี้ แต่เราเชื่อว่าเหล่าแฟนคลับศิลปินเกาหลีต้องคุ้นหน้าคุ้นตาเขากันบ้าง เพราะฮียอลคือพิธีกร You Hee Yeol’s Sketchbook รายการเพลงที่มีไอดอลไปออกอยู่บ่อยๆ แถมยังเป็นเจ้าของค่ายเพลง Antenna ที่มีศิลปินอย่าง ‘แซม คิม’ (Sam Kim) ‘ควอน จินอา’ (Kwon Jin-ah) และพิธีกรขวัญใจชาวเกาหลีอย่าง ‘ยู แจซอก’ (Yoo Jae-suk) อยู่ด้วย

     ฮียอลเขียนหนังสือเล่มนี้ หรือในชื่อภาษาอังกฤษ Night Walking the Night วางขายในปี 2021 ถือเป็น reconstructed version หรือหนังสือที่ต่อยอดมาจากรายการในชื่อเดียวกัน ซึ่งออกอากาศทาง Kakao TV โดยนักเดินอย่างฮียอลจะพาเราออกสำรวจย่านแถวบ้านของเขา แล้วบันทึกผ่านทั้งรูปแบบบทความ แชร์ประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่เขาเคยมีต่อสถานที่แห่งนั้น พร้อมภาพประกอบสุดน่ารักที่เขาเป็นคนวาดเอง 

     เมื่อค่อยๆ พลิกอ่านไปทีละหน้าจึงเหมือนได้เดินสำรวจสถานที่ต่างๆ ไปพร้อมกัน แถมยังได้ซึมซับการมองโลกที่อบอุ่นและใจดีแบบยูฮียอลด้วย

     อย่างที่หนังสือเล่มนี้บอกไว้

     “เมื่อคุณรู้สึกหงุดหงิด เมื่อคุณเบื่อจะคิดถึงเรื่องที่ทำให้กังวล เมื่อคุณคิดถึงใครบางคนที่ไม่อาจเจอ ลองออกไปที่ถนนแล้วเดินช้าๆ ระหว่างทางกลับ ความรู้สึกเหล่านั้นอาจจะต่างไปจากตอนตัดสินใจออกเดินก็ได้”

LEE TEUK COOK BOOK – Leeteuk

     รู้ไหมว่า ‘อีทึก’ (Leeteuk) สมาชิกจาก SUPER JUNIOR ก็เคยออกหนังสือนะ แถมหนังสือที่ว่าก็ไม่ใช่ประเภทความเรียง แบ่งปันประสบการณ์การเติบโต หรืออัตชีวประวัติอย่างศิลปินอื่นๆ ด้วย แต่เป็นหนังสือรวบรวมสูตรอาหารที่เขาทำกินเองที่บ้าน 

     แม้จะเป็นเรื่องชวนตกใจ แต่จริงๆ แล้วหนุ่มคนนี้เขาเดบิวต์เข้าวงการอาหาร พิสูจน์ความสามารถด้านนี้ให้แฟนๆ เห็นผ่านรายการ The Best Cooking Secrets ที่ออกอากาศทางช่อง EBS มาตั้งแต่ปี 2017 แล้ว ไม่แปลกที่ภายในเล่มจะประกอบไปด้วยเทคนิคและวิธีทำอาหารเกาหลีหลากหลายชนิด ตั้งแต่ของว่าง จานหลัก ไปจนถึงของหวาน เป็นอาหารง่ายๆ เหมาะให้คนโสดนำไปทำกินง่ายๆ คนเดียวได้

     นอกจากนั้นยังมีโบนัสสำหรับแฟนๆ เป็นรูปภาพและเรื่องราวของเชฟมือใหม่คนนี้ด้วย

Just Keep Swimming – Woo Hye-rim

     อดีตสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอย่าง ‘อู ฮเยริม’ (Woo Hye-rim) แห่ง Wonder Girls ก็มีหนังสือเป็นของตัวเองเช่นเดียวกัน แถมเป็นหนังสือเกี่ยวกับความรักซะด้วย! 

     “ความรักเป็นสิ่งที่ต้องร่วมกันสรรค์สร้าง เพื่อให้รับรู้ถึงความสุขของการปรับตัวเข้าหากัน…” 

     “ความรักคือการเปลี่ยนแปลงอันสุดขั้ว ที่จะผลักดันให้เราแข็งแกร่งมากขึ้น”

     เหล่านี้คือหนึ่งในความเรียงที่ฮเยริมเขียนขึ้นจากประสบการณ์ชีวิตที่ก่อนนี้มีทั้งสุขและทุกข์ ขึ้นและลง จนกระทั่งได้ค้นพบความหมายของคำว่ารักและการให้กำลังใจ

     ภายในหนังสือประกอบไปด้วยข้อความให้กำลังใจสำหรับผู้ที่มีความรัก ผู้ที่ต้องการความรัก และผู้ที่เบื่อหน่ายกับความสัมพันธ์ ที่จะทำให้คนอ่านตระหนักถึงพลังของคำที่จะรักษาและเยียวยาผู้คน

     “หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกเกี่ยวกับความหมายของความรักและการให้กำลังใจ ซึ่งช่วยให้ตัวฉันหันมาโอบกอดแม้แต่ในด้านที่ตัวเองบกพร่อง ในโมงยามที่ชีวิตไร้เป้าหมาย สุดท้ายแล้วหนังสือที่กล่าวถึงความรักเล่มนี้ อาจไม่สามารถนิยามได้ว่า ‘ความรักคือประการเช่นนี้เอง’ หรือแนะนำวิธีต่างๆ ได้ แต่ฉันเขียนมันออกมาเพราะอยากให้ทุกท่านได้สัมผัสกับความรักแสนตราตรึงใจที่ตัวฉันเองได้พบพาน”

     เล่มนี้สำนักพิมพ์มูกุงฮวาก็นำมาแปลไทยด้วยเหมือนกัน