Fri 29 Jan 2021

EVERY PERSON IN NEW YORK BY JASON POLAN

ศิลปินเจ้าของลายเส้นย้วยๆ จากปากกาลูกลื่น ที่รวบรวมผู้คนนับหมื่นในมหานครนิวยอร์ก

ภาพ: NJORVKS

     ขอทำตัวหนาไว้เลยว่า *บทความนี้ไม่ได้มาเพื่อโฆษณาสินค้า* เราแค่เข้าร้านไปลองเสื้อ (ซึ่งปกติก็ซื้อบ้างไม่ซื้อบ้าง) แล้วดันไปสะดุดกับเสื้อยืดที่มีลายเส้นยึกยือของ เจสัน โปแลน (Jason Polan) นักสเก็ตช์ภาพผู้ไร้เทียมทานแห่งนครนิวยอร์ก ผู้หยิบสิ่งที่ดูธรรมดามาเล่าได้เป็นตัวเองมากที่สุด น่าเสียดายที่ศิลปินในวัย 37 ปีคนนี้จากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อปีก่อน การเห็นงานของเขาบนเสื้อยืดรอบนี้จึงให้ความรู้สึกต่างไปจากการเห็นลายบนเสื้อยืดคอลเล็กชั่นก่อนๆ 

     นอกจากภาพสเก็ตซ์ลายเส้นน้อยๆ ยุ่งๆ ที่อยู่ระหว่างสิ่งที่ดูฉาบฉวย ไปเร็วมาเร็ว แต่ก็สวยงามขึ้นหิ้ง ขณะเดียวกันก็เป็นงานที่โด่งดังถึงแม้จะสามัญธรรมดา เรียบง่ายแต่ก็ชวนมอง ไหนจะลายมือชื่อและคำว่า “Every Person in New York by Jason Polan” ของเขาจะดึงดูดเราแล้ว นี่ยังไม่นับทรงเสื้อรอบนี้ที่สวยมากด้วยนะ เป็น unisex ถูกใจผู้หญิง ใส่แล้วไม่ติดสะโพก ยืนกรี๊ดอยู่นานสองนาน รู้ตัวอีกทีก็กวาดเสื้อไซส์ L ครบทุกลายเข้าไปในห้องลองเสื้อ 

     ไม่ได้การล่ะ เราจะใส่เสื้อเขา โดยรู้จักเขาและงานของเขาน้อยมากอย่างนี้ไม่ได้! (…มันรู้สึกผิด ว่าแล้วก็กดสั่งหนังสือรวมงานของเขา คุณผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม)

     เจสัน โปแลน เป็นศิลปินชาวอเมริกัน เกิดในครอบครัวที่พ่อเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และแม่ทำงานเป็นอาสาสมัคร เจสันเติบโตในรัฐมิชิแกน แม่บอกว่าเขาชอบวาดรูปตั้งแต่เด็ก วาดบนแผ่นรองจาน บนใบเสร็จ บนผ้าเช็ดปาก สำหรับเขาสิ่งที่ขาดไม่ได้คือสมุดวาดภาพและปากกา

     หลังเรียนจบด้านมนุษยวิทยาและศิลปะและการออกแบบจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนในปี 2004 เจสันก็ย้ายมาอยู่นิวยอร์ก เพราะเป็นแฟนตัวยงของพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA) เขาจึงอยากทำงานที่นี่มากกว่าสิ่งใดในโลก เจสันเล่าว่าเขายอมทำทุกอย่าง กวาดพื้น ปัดฝุ่นรูปสลัก เฝ้ายาม หรือขายตั๋ว ไม่ว่าจะงานอะไรก็ได้ยอมทั้งนั้น ขอแค่ได้ใกล้ชิดศิลปะ 

     ขณะเดียวกัน เจสันก็เริ่มวาดภาพงานศิลปะทุกชิ้นในพิพิธภัณฑ์ หวังให้ทีมงานเห็นความตั้งใจ สุดท้ายแล้วแม้ MoMA จะไม่ได้รับเจสันเข้าทำงาน แต่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของงาน Every Piece of Art in the Museum of Modern Art ซึ่งตีพิมพ์และวางขายที่ร้านของ MoMA ในที่สุด 

     เมื่องานของเจสันเริ่มเป็นที่รู้จัก เขาก็ได้เขียนภาพประกอบให้ The Times และสื่อต่างๆ ก่อนจะเปิดคอลัมน์รายสัปดาห์ชื่อ ‘Things I Saw’ ใน The New Yorks Times เจสันเริ่มทำบล็อกรวมภาพสเก็ตซ์เมืองและสิ่งต่างๆ ในปี 2008 แล้วต่อยอดเป็นโปรเจกต์ ‘Every Person in New York’ ในปี 2011 

     ด้วยความตั้งใจว่าจะวาดภาพคนนิวยอร์กทุกคนตั้งแต่คนขับรถแท็กซี่ไปจนถึงคนดัง ที่เขาเจอในรถไฟใต้ดิน ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ หรือบนถนน จนเมื่อวาดภาพครบ 30,000 คน เขาก็รวมเล่มตีพิมพ์เป็นหนังสือชื่อเดียวกัน และในปี 2015 ก็จัดงานนิทรรศการ ได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ต่างๆ เช่น Marvel และ Uniqlo

     สิ่งที่ทำให้งานของเจสันพิเศษคือวิธีการมองโลกในงานของเขา ศิลปินส่วนใหญ่รู้ว่าตัวเองจะวาดภาพอย่างไร แต่ไม่อาจสื่อสาร ทำให้คนมองเห็น หรือรู้สึกแบบเดียวกับตัวเองได้ แต่เจสันทำได้ เขารู้วิธีทำให้คนเห็นภาพแบบที่เขามองเห็น เจสันชอบวาดภาพคนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นชายที่นอนอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดิน ผู้หญิงกางร่มให้เด็ก พนักงานออฟฟิศถือแก้วกาแฟรีบฝ่าฝนไปให้ทันประชุม เพื่อบอกว่าทุกคนล้วนสำคัญและมีคุณค่า

     เจสันจะออกไปวาดภาพโดยพยายามไม่ให้เป็นที่สังเกต เพราะเชื่อว่าหากแบบรู้ตัว จะเป็นการทำลายธรรมชาติของภาพนั้น เขามักแฝงตัวภายใต้เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ และแว่นตากันแดด บางทีก็ใส่หมวกเบสบอลสีเรียบๆ และเมื่อใดก็ตามที่มีคนเห็นหรือรู้ตัวว่ากำลังถูกวาดภาพ เขาจะหยุดทันที เพราะไม่อยากให้คนนั้นรู้สึกไม่ดี หรือบางทีก็ยกภาพนั้นให้เจ้าตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ 

     เจสันเล่าว่าเขาเลือกวาดภาพสิ่งที่ดูธรรมดา อย่างการยืนรอสัญญาณไฟข้ามถนน มากกว่าอะไรที่โดดเด่นสะดุดตา เขาเชื่อในสิ่งที่เห็นแล้วรู้สึกใช่เลย โดยไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ทำจะทำให้ประสบความสำเร็จ เขาแค่คิดอยากจะทำให้ทุกสิ่งดีขึ้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Every Person จึงรวมภาพที่ดูวาดไม่เสร็จหรือไม่สมบูรณ์แบบ

     เจสันเคร่งครัดกับลายเส้นย้วยๆ และการวาดเร็วๆ ด้วยปากกาลูกลื่นของตัวเองมาก เขามีกฎในการทำงานว่า จะสเก็ตซ์ภาพแบบเรียลไทม์เท่านั้น เพราะเขาไม่อยากเติมความเห็นของตัวเองลงไป ถ้าเห็นว่าภาพนั้นไม่มีมือหรือมีอะไรหายไป นั่นก็เพราะคนที่เป็นแบบได้เดินจากไปแล้ว และเจสันไม่ต้องการวาดต่อ เพราะมันจะเป็นการโกง หากเพิ่มสิ่งที่เขาไม่ได้เห็นจริงๆ ตรงหน้า

     หากใครคิดอยากจะมีโมเมนต์บังเอิญโลกกลมพรหมลิขิต เป็นหนึ่งใน Every Person in New York เจสันเขาก็เปิดโอกาส แค่ส่งอีเมลไปบอกชื่อถนน หรือสถานที่ที่คุณจะไปปรากฏตัวในเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 2 นาที เช่น ‘วันอังคารนี้ เวลา 14:22-14:24 น. ฉันจะใส่เสื้อลายทางสีแดงกับรองเท้าบูทสีกรมท่า ไปยืนตรงถนนที่ตัดระหว่างหมายเลย 14 และ 8 ทางเหนือของฝั่งตะวันออก’ 

     ข้อควรระวังคืออย่าเขียนกว้างเกินไป เช่น ยืนอยู่นอกร้านอาหารเวลาพักเที่ยง หรือวันเสาร์จะไปยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ซึ่งอาจจะทำให้คลาดกันได้ และจะดีมากถ้าคุณแจ้งเขาล่วงหน้า 24 ชั่วโมง 

     ถ้าไม่พลาดอะไร คุณจะเจอรูปตัวเองในบล็อกของเขาเย็นวันนั้นเลย

     เสียดายเหลือเกินที่ไม่ทันได้ไปนิวยอร์กช่วงที่เจสันยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้เลยได้แต่จินตนาการถึงเขาที่กำลังถือสมุดสเก็ตช์พร้อมปากกาลูกลื่นคู่ใจ วาดรูปผู้คนอยู่ที่ไหนสักแห่ง

     ใครที่เคยไปนิวยอร์กในช่วงปี 2011-2019 ไม่แน่ว่าอาจจะมีรูปของคุณอยู่ในหนังสือ Every Person In New York หรือ everypersoninnewyork.blogspot.com ก็ได้ ส่วนเรา ก่อนประเทศจะเปิด ขอใส่เสื้อ UT คอลเล็กชั่นใหม่ ซ้อมรับบทคนนิวยอร์ก วิทยาเขตพระราม 9 ไปพลางๆ ก่อน

     ป.ล. รื้อสุดราวเสื้อแล้วอยากให้มี Every Person in Bangkok บ้าง…เอ่อ แต่คนวาดอาจจะต้องเสี่ยงนิดหน่อย เพราะบรรยากาศและพื้นที่สาธารณะก็คงไม่เอื้ออำนวยนัก ยืนวาดไปคงหลบมอ’ไซค์ไป เผลอๆ เราอาจเห็นได้แค่ผมของคนไทยเท่านั้นแหละ

อ้างอิง

moma.org/magazine/articles/229 

nytimes.com/2020/01/27/arts/jason-polan-dead.html

everypersoninnewyork.blogspot.com/

uniqlo.com/th/th/lifewear-magazine/jason-polan/ 

nytimes.com/2017/07/14/insider/jason-polan-sketches-a-city-in-perpetual-motion.html