Wed 28 Apr 2021

JUJUTSU KAISEN

ชวนดู ‘มหาเวทย์ผนึกมาร’ อนิเมะโชเน็นมาแรงแห่งปี 2021

ภาพ: ms.midsummer

บทความชิ้นนี้มีการเผยแพร่เนื้อหาของอนิเมะ

     ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา สตรีมมิ่งหลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น NETFLIX, iQIYI, POPS, LINE TV ฯลฯ ต่างพากันหยิบเอาอนิเมะทั้งเก่าและใหม่มาฉายให้ดูแบบถูกลิขสิทธิ์พร้อมภาพคมชัดระดับ HD (ส่วนตัวฉันในอดีตกำลังคร่ำครวญกับภาพ 360p) จนเพื่อนๆ และบรรดาคนรอบตัวเริ่มหันมาดูอนิเมะเยอะขึ้น นี่ยังไม่รวมถึงบางเรื่องอย่าง ดาบพิฆาตอสูร (Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba) หรือ ฝ่าพิภพไททัน (Attack on Titan: Shingeki no kyojin) ที่ได้รับความนิยมจนโด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองก่อนหน้านี้แล้ว 

     ดังนั้น เรื่องที่เราจะเอามา SKIP INTRO ในตอนนี้จึงไม่ใช่ทั้งสองเรื่องที่กล่าวไป (เอ้า อีนี่) แต่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นกระแสไปทั่วญี่ปุ่นและโลกออนไลน์ในไทย นั่นก็คืออออ (ตึง ตึง ตึง /เสียงรัวกลองบิลด์คนอ่าน) ‘มหาเวทย์ผนึกมาร’ (Jujutsu Kaisen) นั่นเอง!

     การ์ตูนเรื่องนี้เป็นผลงานของ เกเงะ อาคุตามิ (Gege Akutami) ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร โชเน็นจัมป์ (Shonen Jump นิตยสารการ์ตูนญี่ปุ่นภายใต้เครือสำนักพิมพ์ Shueisha) มาตั้งแต่ปี 2018 และได้ดัดแปลงเป็นอนิเมะโดยสตูดิโอชื่อดังอย่าง MAPPA ในช่วงปลายปี 2020 

     พอได้ทำเป็นอนิเมะ แน่นอนว่าดังเป็นพลุแตก คนเลยแห่ไปซื้อมังงะตามเป็นแถบ นิตยสาร โชเน็นจัมป์ เผยว่าจากเดิมเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 Jujutsu Kaisen มียอดขายมังงะรวม 2.5 ล้านเล่ม แต่เมื่อเดือนมกราคม ปี 2021 พอมาเช็กยอดอีกรอบ เรื่องนี้ก็ทำลายสถิติเดิมอย่างก้าวกระโดดด้วยยอดรวมทะลุหลัก 30 ล้านเล่มเป็นที่เรียบร้อย (ปัจจุบัน มังงะยังไม่จบและตีพิมพ์ถึงเล่ม 15 ส่วนฉบับภาษาไทยมีแปลถึงเล่ม 14 โดยลิขสิทธิ์เป็นของสำนักพิมพ์ Siam Inter Comics)

     ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเว็บไซต์ทางการของอนิเมะเรื่องนี้ได้ประกาศว่าจะสร้าง Jujutsu Kaisen The Movie ซึ่งดัดแปลงจากมังงะเล่ม 0 และมีกำหนดออกฉายในช่วงฤดูหนาวปี 2021 อีกด้วย 

     Jujutsu Kaisen หรือ มหาเวทย์ผนึกมาร จึงถือเป็นอีกหนึ่งอนิเมะมาแรงแห่งปีเลยก็ว่าได้ หากใครสนใจสามารถไปหาดูทั้งแบบซับไทยและพากย์ไทยได้ที่ iQIYI แต่ถ้าใครยังไม่มั่นใจว่าจะถูกใจหรือไม่ ควรลองมั้ย ลองมา SKIP INTRO ไปด้วยกัน 

Title: Jujutsu Kaisen
Year: 2020
Genre: Dark Fantasy, Action, Demons, Supernatural, School, Shounen
Episode: 24
Available on: iQIYI 

เรื่องย่อ

     ‘อิตาโดริ ยูจิ’ เป็นเด็กหนุ่มจิตใจดี ร่าเริง มีพละกำลังมากกว่ามนุษย์ทั่วไป วันหนึ่งเขาไปเจอวัตถุปริศนาและได้ส่งมอบต่อให้รุ่นพี่ในชมรมวิจัยสิ่งลี้ลับ ขณะเดียวกัน ‘ฟุชิงุโระ เมงุมิ’ นักเรียนจากโรงเรียนไสยเวทก็ได้รับคำสั่งให้มาค้นหาวัตถุต้องสาประดับพิเศษที่หลับใหลอยู่ในโรงเรียนของอิตาโดริพอดี ซึ่งสิ่งที่ยูจิเจอและเมงุมิต้องการคือ นิ้วของ ‘เรียวเมง สุคุนะ’ ผู้เป็นราชาปีศาจ

     ว่ากันว่าหากได้กินนิ้วของสุคุนะจะเพิ่มพลังทำให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เหล่าภูติผีปีศาจแถวนั้นจึงพากันมารุมทึ้งรุ่นพี่ในชมรมเพื่อแย่งชิงวัตถุต้องสาปไปให้ได้ ทั้งเมงุมิและยูจิจึงต้องต่อสู้เพื่อปกป้องมนุษย์ แต่เมงุมิได้รับบาดเจ็บหนักจนไม่อาจสู้ต่อได้ ขณะที่ยูจิ แม้จะมีพละกำลังมากมายแค่ไหนก็ไม่สามารถเอาชนะปีศาจที่แข็งแกร่งกว่ามากได้ เมื่อเขารู้ว่าคำสาปต้องกำจัดด้วยคำสาป ยูจิจึงตัดสินใจกลืนนิ้วของสุคุนะลงไปทั้งอัน เอื้อก!

     สิ่งนี้จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ และเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่งของอิตาโดริ ยูจิ นั่นเอง!

เรื่องไม่ย่อ
(EP 1-2)

     เพิ่มเติมจากที่เล่าไปข้างบนคือยูจิเติบโตมากับคุณปู่ และแน่นอนว่าสิ่งที่จะปลุกพลังโชเน็นในตัวพระเอกก็ต้องเป็นการสูญเสียคนสำคัญ คุณปู่สั่งเสียก่อนจากโลกนี้ไปว่าให้ยูจิช่วยเหลือผู้อื่นและตายอย่างเหมาะสม คำสอนของปู่กลายเป็นคำสาปติดตัวที่ทำให้เขาเลือกที่จะกลืนนิ้วของสุคุนะลงไปเพื่อปกป้องทุกคน

     เนื่องจากนิ้วของสุคุนะมีพลังและมีพิษมาก ถ้าคนธรรมดากลืนลงไปก็คงตายแน่ แต่นี่ใครจ๊ะ นี่พระเอกจ้า นอกจากจะไม่ตายแล้วยังสามารถควบคุมสุคุนะที่อยู่ในร่างได้ด้วย ทั้งให้ออกมาได้ตามใจสั่งและไม่ให้สุคุนะออกมาเพ่นพ่านตามอำเภอใจได้อีก ความพิเศษนี้ทำให้อิตาโดริได้เข้าเรียนโรงเรียนไสยเวท และรับตำแหน่งเป็นภาชนะ (Host) ของสุคุนะ มีหน้าที่ในการตามล่านิ้วที่เหลือ กลืนลงไป แล้วค่อยยอมถูกฆ่าในตอนท้ายทีเดียว

     ยูจิฟอร์มทีมเด็กปีหนึ่งประกอบไปด้วยตัวเขา เมงุมิ—คนที่สู้ด้วยกันที่โรงเรียน และ ‘คุกิซากิ โนบาระ’ หญิงสาวผู้เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาสุดเทพอย่าง ‘โกโจ ซาโตรุ’ คอยดูแล จากนั้นพวกเขาทั้งสามคนก็ต้องเผชิญกับภารกิจต่างๆ ซึ่งขอเล่าแยกเป็นตอนๆ ดังนี้

ระยะทางพิสูจน์ม้า ภารกิจพิสูจน์เด็กใหม่ 
(EP 3)

     โกโจให้สองเด็กใหม่อย่างยูจิกับโนบาระเข้าไปในตึกที่มีคำสาป ช่วงแรกยูจิยังไม่มีพลังไสยเวท มีแต่ร่างกายที่แข็งแรงกว่าชาวบ้าน จึงทำได้เพียงต่อสู้ด้วยกำลังและใช้อาวุธไสยเวทธรรมดา ส่วนโนบาระมีพลังอาคมในการใช้หุ่นฟาง ตะปู และค้อนในการสาปใส่ศัตรู โดยเธอจะใช้เศษชิ้นส่วนหนึ่งของศัตรูวางลงบนหุ่นฟาง แล้วใช้ค้อนตอกตะปูลงไปในหุ่นเพื่อจัดการศัตรูจากระยะไกล 

     วิธีการสาปของโนบาระนั้นมีอยู่จริงในตำนานญี่ปุ่นโบราณ เรียกว่า อุชิโนะโคคุไมริ (丑の刻参り / Ushi no Koku Mairi) ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เป็นพิธีสาปแช่งศัตรู คนที่เกลียด หรือคนที่ไม่ชอบ โดยมุ่งหวังให้พบกับโชคร้ายหรือถึงตาย วิธีการก็คือใช้ส่วนหนึ่งของอวัยวะ เช่น เส้นผม หรือเล็บมือ ผูกกับตุ๊กตาฟางแล้วใช้ค้อนตอกใส่ต้นไม้ที่ตั้งอยู่ในศาลเจ้าด้วยตะปู โดยต้องทำในช่วงเวลาตี 1-3 และต้องทำต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วันห้ามขาด มิเช่นนั้นคำสาปจะย้อนกลับมาหาตัว

     กลับมาที่อนิเมะ โนบาระกำลังจะชนะแล้วเชียว แต่คำสาปตัวนั้นช่างเจ้าเล่ห์นัก มันจับเด็กมาเป็นตัวประกันทำให้โนบาระต้องทิ้งอาวุธ ตอนกำลังจะหมดหวังยูจิก็ชกกำแพงจนทะลุมาช่วยได้ทันเวลาพอดี

     ตอนท้ายมีการทิ้งปริศนาเรื่องความสัมพันธ์ของโนบาระกับพี่สาวในความทรงจำคนหนึ่งให้ได้ติดตามกันต่อด้วย

ภารกิจพิชิตครรภ์คำสาป
(EP 4-5)

     โรงเรียนไสยเวทได้รับแจ้งว่ามีการพบครรภ์คำสาป (วัตถุต้องสาปที่หน้าตาเหมือนมดลูกและสามารถให้กำเนิดวิญญาณคำสาปได้) อยู่ในสถานพินิจ ซึ่งมีแนวโน้มว่าน่าจะเป็นคำสาประดับพิเศษ ในตอนนี้มีการให้ข้อมูลเรื่องระดับคำสาปไว้ด้วย

     ระดับสี่ คือ กำจัดด้วยไม้เบสบอลที่ทำจากไม้ได้

     ระดับสาม คือ หากมีปืนพกก็ไว้วางใจได้

     ระดับสอง คือ ใช้ปืนลูกซองกำจัดได้อย่างทุลักทุเล

     ระดับหนึ่ง คือ ใช้รถถังยังต่อกรด้วยยาก

     ระดับพิเศษ คือ ทิ้งระเบิดแบบปูพรมไว้ก็ยังเอาไม่อยู่ 

     ระบบจัดการของโรงเรียนไสยเวทจะส่งนักไสยเวทระดับเดียวกับคำสาปมาปราบเพื่อความชัวร์ว่าเอาอยู่ แต่โรงเรียนมักจะประสบปัญหาขาดบุคลากร ในภารกิจครรภ์คำสาปนี้จึงให้แก๊งสามหน่อช่วยยืนยันและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเท่านั้น เพราะฟุชิงุโระ เมงุมิ เป็นนักไสยเวทระดับสอง คุกิซากิ โนบาระ อยู่ในระดับสาม และอิตาโดริ ยูจิ ยังไม่ถูกจัดลำดับ เนื่องจากเป็นภาชนะของสุคุนะ ซึ่งหากส่งไปกำจัดปีศาจน่าจะไม่รอดกลับมาแน่นอน

     เมงุมิใช้วิชาคุณไสยอันเชิญชิกิงามิ (ภูติ) ออกมาจากเงาได้ โดยการทำมือเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์ต่างๆ เริ่มจากการใช้สุนัขศักดิ์สิทธิ์สีขาวเพื่อตามหาคนที่ยังมีชีวิตอยู่ น้องไล่ดมมาเรื่อยๆ ก็เจอกับห้องที่เต็มไปด้วยศพ ทุกคนตายหมดแล้ว ทันใดนั้นโนบาระก็ถูกดูดไปอีกมิติหนึ่ง เมงุมิงง เกิดอะไรขึ้น ปกติสุนัขศักดิ์สิทธิ์ต้องได้กลิ่นคำสาปแล้วนะ พอหันไปอีกทีน้องก็ไปอยู่ดาวหมาแล้วจ้า T_T

     สรุปคือครรภ์คำสาปโตมาเป็นระดับพิเศษจริงๆ พริบตาเดียวยูจิก็โดนฟันมือขาด เขาสั่งให้เมงุมิพาโนบาระหนีออกไปแล้วจะถ่วงเวลาไว้ให้

     ระหว่างต่อสู้กับระดับพิเศษ ยูจิแทบจะสู้ไม่ได้เลย เพราะพลังต่างกันมาก (ซึ่งฉากต่อสู้ในตอนนี้คือมันจริงๆ แนะนำให้ดู ตอนที่ 4 นาทีที่ 12:00) สุดท้ายพอเมงุมิกับโนบาระหนีออกไปได้ ยูจิก็เอาชีวิตเข้าแลกและเรียกสุคุนะออกมา พลังของสุคุนะไม่เพียงแต่จะแข็งแกร่ง แต่ยังมีพลังไสยเวทย้อนกลับที่สามารถงอกมือที่ขาดของยูจิให้กลับมาเป็นปกติได้อีกด้วย

     ปกติแล้วยูจิสามารถสลับตัวกลับมาได้เสมอ ซึ่งสุคุนะโคตรจะเซ็งกับเรื่องนี้ เพราะเหมือนถูกใช้เป็นเครื่องมือ แต่อยู่ๆ คราวนี้เมื่อกำจัดระดับพิเศษเสร็จ ยูจิก็ไม่กลับมาสักที สุคุนะจึงยิ้มร่าได้เวลาเอาคืนไอ้เด็กนี่แล้ว สุคุนะไปหาเมงุมิและกระชากหัวใจของยูจิออกมาจากอกแบบสดๆ (กรี๊ด ตอนดูช็อกมาก นังราเม็งหล่อนทำกับพระเอกแบบนี้เลยเหรอ!) ตามมาด้วยฉากต่อสู้สุดเข้มข้น เหมือนว่าจริงๆ แล้วสุคุนะอยากจะเห็นพลังที่แท้ทรูของเมงุมิ ซึ่งกำลังจะได้เห็นแล้วเชียว แต่อยู่ๆ เมงุมิก็นิมิตได้ว่าตัวเองไม่ใช่ฮีโร่ ทำไมต้องโชว์ด้วย เลยล้มเลิกไปซะก่อน เมื่อยูจิสลับตัวกลับมาในร่างที่ไม่มีหัวใจเลยต้องตาย

     ด้านโนบาระกับเมงุมิก็แสนเศร้า เพราะเสียเพื่อนไปทั้งคน พวกรุ่นพี่ปีสองประกอบไปด้วย ‘เซนอิง มากิ’ ‘อินุมากิ โทเกะ’ และ ‘แพนด้า’ จึงมาชวนให้ทั้งสองคนเข้าร่วมงานเชื่อมความสัมพันธ์โรงเรียนไสยเวทโตเกียว-เกียวโต เพื่อฝึกฝนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ไม่ให้ใครต้องมาตายเพิ่มอีกแล้ว

ตายทิพย์
(EP 6)

     แน่นอนว่าทุกคนรู้ คนดูรู้ พระเอกจะตายง่ายขนาดนี้ได้อย่างไร สุคุนะยื่นเงื่อนไขสองข้อในการฟื้นคืนชีพให้ยูจิ 

     หนึ่งคือเมื่อเอ่ยคำว่า ‘พันธะ’ ยูจิต้องมอบร่างให้ทันทีเป็นเวลา 1 นาที และสองคือยูจิต้องลืมสัญญาข้อแรกไปซะ ทีแรกยูจิก็ไม่ยอม เลยต้องจบลงที่สู้กัน ผลลัพธ์ก็ง่ายๆ ถ้ายูจิชนะแล้วมันจะสนุกได้ยังไงเล่า 

     ยูจิฟื้นขึ้นมาบนเตียงเหล็กเย็นเฉียบ สร้างความเสียดายให้คุณหมอที่กำลังจะลงมือชันสูตรศพเป็นอย่างมาก ในชีวิตจะมีสักกี่ครั้งที่ได้ตรวจสอบภาชนะของวัตถุต้องสาป แต่โกโจไม่ต้องการให้เบื้องบนรู้ว่ายูจิยังไม่ตาย จึงทำการซ่อนและฝึกฝนยูจิอย่างลับๆ

     โกโจอธิบายเรื่องความต่างของพลังไสยเวทและอาคมไว้อย่างเข้าใจง่าย จึงขอยกมาตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม (สามารถหาชมได้ในตอนที่ 6 นาทีที่ 13:29)

     “‘ไสยเวท’ คือ ‘กระแสไฟฟ้า’ ส่วน ‘อาคม’ คือ ‘เครื่องใช้ไฟฟ้า’ มีแค่กระแสไฟฟ้า ประโยชน์ใช้สอยก็น้อยใช่ไหมล่ะ ฉะนั้นจึงใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ารับกระแสไฟฟ้า แล้วแสดงผลลัพธ์แบบต่างๆ”

     โดยทั่วไปแล้ว อาคมเป็นสิ่งที่มีอยู่ในร่างกายตั้งแต่เกิด ดังนั้นยูจิที่ไม่ได้มีคุณสมบัติเป็นนักไสยเวทมาตั้งแรกเริ่มก็เลยไม่มีอาคมในตัว โกโจจึงเนรมิตคอร์สขึ้นมาเพื่อฝึกฝนให้ยูจิเริ่มควบคุมและถ่ายทอดพลังไสยเวทได้อย่างถูกต้อง

เปิดตา เปิดใจ
(EP 7)

     ระหว่างที่ปล่อยให้ยูจิฝึกฝน โกโจก็เดินทางไปพบครูใหญ่ และถูกลอบโจมตีจากคำสาประดับพิเศษ แต่โกโจก็เป็นผู้ใช้คุณไสยระดับพิเศษเช่นเดียวกันจึงต่อสู้ได้สบายมาก แถมยังมีเวลาบินกลับไปเอาตัวยูจิจากห้องเรียนมาศึกษานอกสถานที่อีกด้วย (ไม่รู้เหมือนกันว่าทำได้ยังไง)

     ความพิเศษของตอนนี้คือการเปิดเผยเทคนิคขั้นสูงสุดในวิชาคุณไสย ‘การกางอาณาเขต’ คือการใช้พลังคุณไสยมหาศาล ทำให้เกิดพื้นที่ภายใต้อาณาเขตที่ทำให้การโจมตีด้วยอาคมมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือต้องโดนแน่ๆ 100 เปอร์เซ็นต์เลย 

     ฝั่งคำสาประดับพิเศษโชว์กางอาณาเขตไปหนึ่งแมตช์ กะว่าจะทำลายทั้งโกโจและภาชนะของสุคุนะอย่างยูจิในรอบเดียว ซึ่งวิธีการรับมือเมื่ออยู่ในอาณาเขตของศัตรูคือการกางอาณาเขตเช่นกัน ซึ่งเป็นการวัดเลยว่าอาณาเขตของใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน

     ปกติแล้วโกโจจะสวมผ้าปิดตาสีดำหรือแว่นกันแดดเสมอ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นคาแรกเตอร์ตัวละคร แต่บ่ใช่เลยแม่! โกโจถอดผ้าปิดตาออก โชว์ดวงตาสีฟ้า และกางอาณาเขตแบบเท่จัดให้เด็กมันดูเป็นขวัญตา ขอเชิญทุกท่าน SKIP ไปยังตอนที่ 7 นาทีที่ 14:02 เพื่อชมฉากในตำนานของเรื่องนี้ด้วยตัวท่านเองค่ะ!

     หลังจากนั้นยูจิก็ได้เรียนรู้ฮาวทูเป็นนักไสยเวทด้วยหลักสูตรเร่งรัดสุดๆ เมงุมิกับโนบาระจะทำหน้ายังไงเมื่อเห็นว่ายูจิยังไม่ตาย งานเชื่อมสัมพันธ์จะแตกหักขนาดไหน แล้วการตามล่าหานิ้วมือสุคุนะจะเป็นอย่างไร ไปติดตามต่อกันได้ในอนิเมะเลยจ้า 

     ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีรายละเอียดเยอะมากๆ หวังว่า SKIP INTRO ในตอนนี้จะช่วยให้ผู้อ่านตัดสินใจได้ว่าควรหรือไม่ควรดูเรื่องนี้กันแน่ แต่ถ้าใครสายแอ็กชั่นชอบดูซีนต่อสู้ที่มีกลิ่นอายของ เทพมรณะ (Bleach) นารุโตะ นินจาจอมคาถา (Naruto) หรือ ฮันเตอร์ x ฮันเตอร์ (Hunter × Hunter) แนะนำให้เริ่มดูตั้งแต่ตอนแรกเลย เพราะสู้กันเกือบทุกตอน และคิวบู๊ก็มีความสมเหตุสมผลใช้ได้

     บอกเลยว่าไม่ควรพลาด!

     ป.ล. ต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่านที่หวังจะให้ทางนี้อธิบายพลังของโกโจ ซาโตรุ ขอบอกเลยว่าดูเองก็ยังไม่เข้าใจเอง (แต่หล่อมาก ไม่เถียง พวกผู้ชายพูดคะขา) หากใครเข้าใจสามารถบอกเล่าเป็นวิทยาทานในช่องคอมเมนต์ได้เลยค่ะ ?