Thu 11 Feb 2021

OPPAN COUPLE STYLE

เบื้องหลังการแต่งตัวคล้ายกันของคู่รักในที่สาธารณะ ตั้งแต่เรื่องจิตใต้สำนึก การสื่อสารที่ทำให้ใกล้ชิด ไปจนถึงการสร้างบรรยากาศเมืองทั้งเมือง

ภาพ: NJORVKS

     ‘กุมภาพันธ์แล้ว เมื่อไหร่จะได้กุมมือ’ 

     อยู่ในวงการห้องลองเสื้อมาหลายปี ผู้ติดตามก็เรียกร้องว่าอยากให้น้องนอนในห้องลองเสื้อมีคอนเทนต์เสื้อผ้าผู้ชายบ้าง ถึงขนาดส่งภาพคู่รักในห้องลองมาให้ดูเป็นแบบอย่างด้วย แต่อยากบอกเหลือเกินว่าดิฉันน่ะมีเรฟเฟอร์เรนซ์เยอะมาก ขนาดที่ว่าใส่ได้จนลูกบวช ขาดก็แต่คนที่พร้อมมาลองด้วยกันเท่านั้น (ยังค่ะ ยังไม่ถึงเวลาขายตรง)

     ในเมื่อถือคติ ‘เสื้อผ้าเต็มตู้ เสื้อคู่ยังไม่มี’ คอลัมน์ Some Wear Only We Know ตอนนี้ จึงขอเล่าถึงเสื้อคู่โดยคนไม่มีคู่ที่อยากใส่เสื้อคู่ ว่าด้วยเรื่องความหมายที่ซ่อนอยู่ในเสื้อคู่ที่มากกว่าแค่การแสดงความรัก สไตล์ของคู่รักคนดังในช่วงต่างๆ (เผื่อไว้จดไปใช้) เรื่องของเมืองหลวงเสื้อคู่อย่างเกาหลีใต้ที่ไม่ได้ใส่เพื่อแสดงความรักไปวันๆ ไปจนถึงเทรนด์การใส่ชุดคู่ที่เข้ามาเปลี่ยนแผนธุรกิจแฟชั่นชั้นนำ

     แม้ภาคปฏิบัติจะติดลบ แต่ถ้าลองคบจะติดใจ ที่พลีชีพเขียนก็เพื่อหวังเล็กๆ ว่าจะมีสักวันที่บังเอิญใจตรงกันใส่เสื้อคล้ายกับคนที่แอบชอบบ้าง (เดี๋ยวจบตอนนี้แล้วจะขอตัวไปเลือกชุดเจ้าสาวบ้าง) ใครอ่านแล้วจะอวดเสื้อคู่ของตัวเองให้ผู้เขียนอิจฉาเล่นๆ ก็ยินดี แต่อวดแล้วช่วยอวยพรให้ผู้เขียนเจอคนมาใส่เสื้อคู่กันด้วยนะจะได้มีแรงใจทำงานต่อ

1
เมื่อดาวโคจรมาเจอะกัน

     (อนุญาตให้เปิดเพลง เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ คลอตามไประหว่างอ่านได้) 

     เพราะอยากรู้อยากเห็นเรื่องเสื้อคู่ หรือการแต่งตัวคล้ายกันของคู่รักในที่สาธารณะ เพื่อประกาศ/แจ้งบอก/แสดงออกถึงความสัมพันธ์ จึงได้เจอบทความเกี่ยวกับจิตวิทยาของการแต่งตัวเหมือนกันของคู่รักในเว็บไซต์ Huffington Post คุณหมอนิกกี้ โกลด์สไตน์ (Nikki Goldstein) ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลความสัมพันธ์ เล่าว่า ปรากฏการณ์เสื้อคู่มักจะเกิดขึ้นกับคู่รักที่ต่างฝ่ายต่างชอบพอกันมาเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน นั่นเป็นเพราะจิตใต้สำนึกอยากให้รู้สึกว่าตัวเองดูเหมาะสมกับคนที่ออกเดตด้วย ในทางหนึ่งก็เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความสัมพันธ์ แต่ในอีกทางก็ไม่ต่างจากการแต่งตัวเหมือนกันของเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศ

     “คนเรามักจะเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่อยู่ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติที่เวลาเรารักใครสักคน เราก็จะค่อยๆ เปลี่ยนสไตล์เราให้เข้ากับเขา ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่”

2
สไตล์ของคู่รักในอุดมคติ

     ก่อนจะเข้าเรื่องเสื้อคู่ในสไตล์เกาหลีญี่ปุ่นที่คุ้นเคย อยากชวนย้อนกลับไปดูเสื้อคู่โทนเดียวกันในอดีตสักนิดก่อน ซึ่งนิตยสารแฟชั่น Harper Bazaar ได้รวบรวมภาพคู่รักที่มีสไตล์แต่งตัวโดดเด่นแห่งยุคไว้ ตั้งแต่ มาร์ก แอนโทนีกับพระนางคลีโอพัตรา ราชินีองค์สุดท้ายแห่งอียิปต์ (เมื่อ 41 ปีก่อนคริสตกาล) พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศสกับพระนางมารี อ็องตัวเน็ตต์ (1770) สมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียแห่งสหราชอาณาจักรและเจ้าชายอัลเบิร์ตแห่งแซ็กซ์โคเบิร์ก-โกธา (1840) กาเบรียล ชาแนล ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Chanel และ บอย คาเปล (1908) วอลลิส ซิมป์สัน หญิงสามัญชนชาวอเมริกัน กับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งวินด์เซอร์ ผู้เป็นตำนานรักต้องห้ามแห่งราชวงศ์อังกฤษ (1937) ออเดรย์ เฮปเบิร์น เจ้าหญิงวงการฮอลลีวูด กับ วิลเลียม โฮลเดน ตอนที่รักกันจากเรื่อง Sabina (1953) จอห์น เอฟ. เคนเนดี และ แจ็กเกอลีน เคนเนดี (1953) จอห์น เลนนอน อดีตสมาชิกวง The Beatles และ โยโกะ โอโนะ (1969) เคท มอส ซูเปอร์โมเดลแห่งยุค และ จอห์นนี เดปป์ ดาราหนุ่มชื่อดัง (1994) คู่รักนักฟุตบอลคนดังและนักร้องสมาชิกวง Spice Girls เดวิดและวิกตอเรีย เบ็คแฮม (1999) คู่รักนักร้อง บริตนีย์ สเปียร์ส และ จัสติน ทิมเบอร์เลค (2002) บียอนเซ่ และ เจย์ซี (2008) เป็นต้น 

     จากภาพเราเห็นมวลความรักที่มีอยู่เต็ม แม้บางคู่จะรักกันจนความตายมาพรากจาก และบางคู่อาจจะคบหากันในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม

     บทความว่าด้วยเรื่องจิตวิทยากับเสื้อคู่ใน Huffington Post ยังไปสัมภาษณ์ เฟย์ เดอ แลนตี (Faye De Lanty) สไตลิสต์ชาวออสเตรเลีย โดยเธอเล่าว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนมีความรักจะดึงดูดกันด้วยอะไรบางอย่าง เป็นการอยู่ในความสัมพันธ์ที่หลงใหลได้ปลื้มและชอบทุกอย่างที่เป็นเขา ซึ่งเป็นปกติที่คู่รักจะมีอิทธิพลต่อกัน เราจะเห็นบางคู่ไปเลือกซื้อเสื้อผ้าด้วยกัน หรือบางคนที่ไม่ได้สนใจแฟชั่น เขาก็จะปล่อยให้คนรักเป็นผู้เลือกซื้อให้ ซึ่งก็มีแนวโน้วที่จะเลือกซื้อสิ่งที่แมตช์กัน แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคู่ บางคู่เขาก็สงวนไว้ในพื้นที่ส่วนตัว

     สิ่งที่น่าสนใจคือ การเป็นไปอย่างธรรมชาติ ไม่ใช่การตั้งใจทำ เพราะหากใครสักคนต้องเปลี่ยนตัวเองมากเกินไป หรือทำเพียงเพื่อรักษาความสัมพันธ์ สุดท้ายเราคงต้องลาอยู่ดี

3
เสื้อคู่ยุค 70s

     ระหว่างที่ดูรูปคู่รักคนดังฝั่งฮอลลีวูด ก็เกิดความสงสัยว่าคนธรรมดาเขาแสดงออกถึงความรักผ่านการแต่งตัวยังไงบ้าง จนไปเจอแคตตาล็อกเสื้อผ้ายุค 70s จึงได้เห็นว่าช่วง 1960s-1980s คู่รักเมืองหนาวนิยมใส่เสื้อกันหนาวเป็นคู่ บางแบบก็ดูแปลกดีแต่ทำให้เห็นวิวัฒนาการของเสื้อผ้าตามกาลเวลา ซึ่งในยุคที่ยังไม่มีคำว่า couple look โลกเรียกการแต่งตัวสไตล์นี้ว่า His and Her Fashion

4
เมืองหลวงของคู่รัก

     เกาหลีใต้ นอกจากจะเป็นประเทศที่มีวันแห่งความรักให้ฉลองมากกว่าชาวบ้านถึง 12 วันแล้ว คู่รักเกาหลียังให้ความสำคัญกับการฉลองครบรอบ 100 วัน 200 วัน 300 วัน 1,000 วันกันแบบสุดๆ ด้วย ไม่ว่าจะมอบของขวัญ แลกแหวนแทนใจ จองโต๊ะฉลองมื้อใหญ่ที่ร้านดังบนชั้นดาดฟ้า จัดทริปสั้นๆ เพื่อให้เวลาร่วมกัน และอีกสารพัดบิ๊กเซอร์ไพรส์

     ส่วนวันแห่งความรักที่มีมากมายถึง 12 วันนั้นเป็นเพราะทุกวันที่ 14 ของเดือนนั้นมีความหมาย 

     เริ่มจาก Diary Day (14 มกราคม) วันที่คู่รักจะแลกสมุดไดอารี่เพื่อเขียนบันทึกความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่าย Valentine’s Day (14 กุมภาพันธ์) สำหรับคนเกาหลี วันนี้ถือเป็นวันพิเศษในรอบปีที่หญิงสาวจะมอบของหวานสารภาพรักต่อชายหนุ่ม White Day (14 มีนาคม) เป็นวันที่ชายหนุ่มจะมอบของหวานแทนคำตอบรับรัก Black Day (14 เมษายน) คือวันปลอบใจสำหรับคนไร้รัก นอกจากนัดกันแต่งดำแล้ว กลุ่มคนโสดมักจะชวนกันไปกินกาแฟดำ และซดบะหมี่ซอสดำกันวันนี้ด้วย Rose Day หรือ Yellow Day (14 พฤษภาคม) คือวันที่คนมีคู่จะมอบดอกกุหลาบให้กัน และคนโสดจะใส่เสื้อสีเหลืองไปกินแกงกะหรี่ 

     Kiss Day (14 มิถุนายน) คือวันจุมพิตเพื่อยืนยันความรักที่มีต่อกัน Silver Day (14 กรกฎาคม) คือวันแลกแหวนเงิน Music Day (14 สิงหาคม) คือวันมอบเทปเพลงรักแก่กัน Photo Day (14 กันยายน) เป็นวันถ่ายรูปคู่รัก Wine Day (14 ตุลาคม) คือวันดื่มไวน์ในฤดูใบไม้ร่วง ฤดูที่โรแมนติกที่สุด Hug Day (14 พฤศจิกายน) คือวันกอดคลายหนาว เป็นวันที่คู่รักจะซื้อถุงเท้าหรือถุงมือให้กัน Money Day (14 ธันวาคม) เป็นวันที่คนจะใช้เงินซื้อของฟุ่มเฟือยให้คนรัก ฮืออออ ชอบวันนี้ที่สุดเลย 

     นอกจากนี้ยังมีวัน Pepero Day (11.11) หรือวันป๊อกกี้ ไม่ต่างจากวันวาเลนไทน์ที่คู่รักจะมอบขนมแท่งแก่กัน หรือแม้แต่วันคริสต์มาส สำหรับคนเกาหลีก็ถือเป็นวันแห่งความรักด้วย 

     ก็…เกาหลีอะเนอะ 

     แอบสงสัยเหมือนกันว่า การเป็นคนโสด ณ เกาหลีใต้ จะมีชีวิตแบบไหน เอ๊ะ หรือย้ายไปตั้งวันคนโสดที่นั่นดี 

     หลอกค่ะ เรื่องจริงคือ กำลังรับสมัครเนื้อคู่อยู่ 1 อัตรา 

5
คนมันรัก

     ถึงจะมีวันคู่รักเยอะ มีเรื่องให้ใส่เสื้อคู่แยะ แต่คนมันรักห้ามได้ไหม ใจมันรักห้ามไม่ไหว เปิดใจได้ไหมคนดี~ คนเกาหลีเขาเลยใส่เสื้อคู่กันได้ทุกวัน

     คำว่า Couple Look (커플룩) มาจากประเพณีการใส่เสื้อผ้าชุดคู่ของคู่แต่งงานใหม่ในช่วงฮันนีมูนของคนเกาหลี ซึ่งในอดีตผู้ชายจะใส่ชุดสูท ขณะที่ผู้หญิงใส่ชุดประจำชาติหรือฮันบก ก่อนจะปรับเปลี่ยนเป็นชุดลำลองตามยุคสมัย จากที่ใส่ในโอกาสพิเศษก็เริ่มแพร่หลายขึ้น จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว 

     ถึงแม้ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ากระแสเสื้อคู่เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เราคิดว่าหนึ่งในแรงบันดาลใจน่าจะมีฉากที่พระเอกนางเอกแต่งตัวคล้ายกันไปออกเดตในซีรีส์ดังที่ฉายช่วงปี 2012 อย่าง Secret Garden หรือ The Heirs ด้วยแน่ๆ ประกอบกับการเข้ามาของโซเชียลมีเดียก็ทำให้เกิด #couplelook เต็มหน้าไทม์ไลน์

     แต่จะว่าไปการแสดงความรักด้วยการแต่งกายของคนเกาหลี ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากความหลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอก จะเห็นได้จากการเป็นประเทศที่เปิดกว้างเรื่องศัลยกรรม การส่งออกวัฒนธรรมผ่านสื่อบันเทิงต่างๆ การสร้างมาตรฐานเกี่ยวกับความงาม ซึ่งต้องยอมรับว่าหากคุณไม่ได้เป็นคนที่ดูดีแบบที่สังคมชอบก็ยากที่จะมีที่ยืน และด้วยตรรกะนี้ ถ้าคุณมีความสัมพันธ์คุณก็ยิ่งอยากแสดงออกมากเป็นพิเศษ ซึ่งบทความในเว็บไซต์ i-D UK ยังบอกเหตุผลว่าที่คนเกาหลีแสดงความรักออกมาผ่านการแต่งกายในที่สาธารณะหรือชอบเป็นจุดสนใจของสาธารณะ (appearance-based) เพราะนอกจากสถานที่สาธารณะแล้วก็ไม่ค่อยมีสถานที่หรือกิจกรรมให้คู่รักทำสักเท่าไหร่ และ ‘Netflix and chill’ ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมในกลุ่มคู่รักเหมือนกับประเทศอื่นๆ

     ขณะที่คนเกาหลีบางคนก็รู้สึกว่าการมีอยู่ของ couple look นั้นสร้างความกดดัน ยิ่งสังคมสมัยนี้ พ่อแม่คาดหวังให้ลูกมีงานที่ดี มีคู่ครองที่ดีและมั่นคง การอยู่ในความสัมพันธ์ที่ดีสำคัญไม่ต่างจากการได้งานในบริษัทชั้นนำ หรือสอบเข้ามหาวิทยาลัยดังของประเทศได้ บางคนเลยอาจรู้สึกว่าถูกคาดหวังในความสัมพันธ์เป็นพิเศษ 

     แม้ในวันนี้เกาหลีจะเริ่มผ่อนคลายขึ้น เห็นจากการที่ร้านรวงปรับตัวต้อนรับคนโสด จนคุณอาจไม่เชื่อว่า ก่อนหน้านี้คนเกาหลีไม่ชินกับการไปไหนมาไหนคนเดียว แม้จะโสดอย่างน้อยก็ต้องมีกลุ่มเพื่อนตัวติดกันเดินไปด้วย 

6
เสื้อคู่รักวัย 60s

     เสื้อคู่ไม่ใช่เรื่องของคนรักวัยรุ่นเท่านั้น เพราะเมื่อพูดถึงชุดคู่รัก ต้องมีชื่อของคู่รักเซกิ เจ้าของบัญชีอินสตาแกรม @bonpon511 ซึ่งมาจากชื่อเล่นในวัยเด็กของคุณลุงสึโยชิ เซกิ (Tsuyoshi Seki—Bon) และคุณป้าโทมิ เซกิ (Tomi Seki—Pon) ทั้งสองคนพบรักกันในงานเทศกาลสมัยที่ยังเป็นนักเรียนศิลปะ หลังแต่งงาน (วันที่ 11 พฤษภาคม 1980) คุณลุงสึโยชิก็ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบและการตลาด ส่วนคุณป้าเป็นแม่บ้านดูแลครอบครัว เมื่อสามีเกษียณ ทั้งคู่จึงมีเวลาว่างออกเดินทางไปที่ต่างๆ

     หลังจากโพสต์รูปชุดคู่ครั้งแรกในปี 2006 ทั้งคู่ก็เป็นที่ชื่นชอบจากผู้ชมล้นหลาม จนปัจจุบัน (ปี 2021) มีผู้ติดตามถึง 8 แสนคน เป็นตัวอย่างของคู่รักวัยเกษียณ ที่ยังสดใสและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาแม้ว่าจะแต่งงานกันมาแล้วกว่า 40 ปี 

     สิ่งที่น่าสนใจคือเสื้อผ้าของทั้งคู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าเรียบง่าย สามารถหาซื้อได้ตามร้านทั่วไป สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนหันมาแต่งตัวหรือทำอะไรที่มีชีวิตชีวาขึ้น นอกจากนี้ ห้างร้านและแบรนด์ดังยังชวนคู่รักเซกิไปทำคอลเลกชั่นพิเศษมากมาย แถมตอบรับสังคมสูงอายุในญี่ปุ่นเป็นอย่างดี

     ที่ญี่ปุ่นจะเรียกการแต่งตัวเหมือนกันว่า Osoroi Code (揃いコーデ) ซึ่งไม่จำกัดอยู่เฉพาะคู่รักเท่านั้นแต่ยังรวมถึงเพื่อนและครอบครัว เป็นการเชื่อมโยงความรู้สึกให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว เพื่อความชัดเจนลองคิดถึงภาพกลุ่มคน ไม่ว่าจะเพื่อน คู่รัก หรือครอบครัวที่แต่งตัวไปโตเกียวดิสนีย์แลนด์ นั่นแหละคือ Osoroi Code

7
จากเสื้อคู่แม่ลูกสู่ตลาดเสื้อครอบครัว

     เสื้อคู่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่คู่รัก เพราะเรื่องเทรนด์การแต่งชุดเหมือนกันทั้งครอบครัวก็กำลังเป็นที่นิยม และเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของแบรนด์เสื้อผ้าหลายๆ แบรนด์เหมือนกัน 

     บทความเรื่องเทรนด์การแต่งตัวเหมือนกันทั้งครอบครัวที่ส่งผลต่อธุรกิจแฟชั่นใน The Washington Post เล่าถึงเทรนด์แฟชั่น mini-me ที่มาพร้อมกระแสโซเชียลมีเดียในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจับกลุ่มตลาดแม่และเด็ก โดยเริ่มต้นจากคุณแม่คนดังที่จับลูกๆ แต่งตัวเหมือนตัวเอง ก่อนจะต่อยอดเป็นตลาดพ่อและเด็ก ไปจนถึงชุดที่ใส่เหมือนกันทั้งครอบครัว 

     ความต้องการของตลาดที่มากขึ้น ทำให้แบรนด์แฟชั่นต้องปรับตัวตาม จากที่เคยทำเป็นคอลเลกชั่นพิเศษสำหรับขายช่วงเทศกาลวันชาติ วันพ่อ วันแม่ ก็เริ่มกลายเป็นคอลเลกชั่นหลักของแบรนด์ หลายแบรนด์หันมาทำเสื้อผ้าเด็กและผู้ใหญ่จากลายผ้าชุดเดียว ซึ่งในอนาคตเส้นแบ่งระหว่างเสื้อเด็กและผู้ใหญ่อาจจะหายไป 

     แม้วิธีการนี้จะสร้างเงินมหาศาล แต่นักการตลาดหลายคนก็กังวลว่าในระยะยาวจะส่งผลต่อเด็กๆ เพราะดูเหมือนว่าครอบครัวกำลังใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือสร้างภาพลักษณ์และยอดไลก์ อาจทำให้เด็กๆ รู้สึกเสียตัวตน เพราะไม่ได้เลือกสิ่งที่ชอบและเหมาะกับตัวเองด้วยตัวเอง 

     อ่านถึงตรงนี้ก็คิดถึงชุดกระโปรงฝาแฝดที่แม่เคยจับเราใส่คู่กับน้องสาว จนอยากบอกนักการตลาดเหล่านั้นว่าอย่าได้เป็นกังวล เพราะมันเป็นความสุขของคนที่ได้เห็นจริงๆ แค่คิดว่าพ่อกับแม่สนุกแค่ไหนตอนมะรุมมะตุ้มจับเราสามคนพี่น้องให้ยืนตัวตรงถ่ายรูปก็สนุกแล้ว

8
ทฤษฎีสีชมพู

     เสื้อคู่ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ประกาศบอกว่าตัวเองไม่โสด แต่มันทำให้คู่รักรู้สึกใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น จากการสังเกตเสื้อผ้าของกันและกัน สื่อสารกัน โดยอาจเริ่มจากวิธีง่ายที่สุดคือชวนกันแต่งชุดสีเดียวกันในแบบของตัวเอง อาจจะเลือกสีจากเสื้อผ้าที่คนรักของคุณมีในตู้ หรือเวลาไปช้อปปิ้งด้วยกันแล้วเห็นช่วงนี้สีเขียวเข้ม และน้ำตาลออกแดงกำลังมาเป็นพิเศษ ก็ต้องมีเอาไว้ใส่คู่กันแล้วนะ หากอยากสนุกขึ้นลองกำหนดลายผ้าง่ายๆ อย่างลายทาง ลายตาราง หรือลายสก็อต แล้วค่อยท้าทายความสามารถขยับไปสู่ลายดอกไม้และลายเสือดาวก็ได้ 

     อย่างสุดท้ายคือสไตล์ ซึ่งดิฉันถือคติ ยิ่งลองยิ่งมีประสบการณ์ กว่าจะรู้ว่าคู่เราเหมาะกับสไตล์ไหนก็ต้องลองเสี่ยงกันบ้าง ถ้าวันนี้ลองเป็นคู่รัก sporty หรือ outdoor แล้วไม่เข้า ก็ลองใส่สูทเป็นหนุ่มสาวออฟฟิศ หรืออยากลองกราฟิกมันๆ ก็ไปสายสตรีทก็ได้ เนี่ยดูสิ มีให้ลองแต่งเยอะแยะไปหมด ที่สำคัญอย่าลืมพูดชมเขา ยิ้มน้อยๆ ให้สักหนึ่งทีที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีด้วยนะ

     ฮาวทูการใส่ชุดคู่ก็มีสั้นๆ แค่นี้ ไว้มีคู่เมื่อไหร่ จะกลับมาเขียนเรื่องเสื้อคู่ให้อ่านอีกยาวๆ 

     และก่อนจากกันไป ขอย้ำอีกสักครั้ง ห้องลองเสื้อมันกว้าง ถ้ามีคนมาลองเสื้อคู่ข้างๆ ก็คงดี สวัสดีค่ะ

อ้างอิง: 

i-d.vice.com/en_us/article/d354gy/unpacking-south-korean-couple-twinning-phenomenon

qz.com/909115/in-south-korea-couple-look-is-a-fashionable-way-to-tell-the-world-that-youre-in-love/ 

tokyocreative.com/articles/19458-matching-outfits-osoroi-code

gq-magazine.co.uk/gallery/charlie-heaton-natalia-dyer-best-couple-looks 

flashbak.com/the-nightmare-that-was-his-her-fashions-371711/ 

harpersbazaar.com/culture/features/g5381/the-most-stylish-couples-throughout-history/

huffingtonpost.com.au/2016/09/18/couple-dressing-the-psychology-behind-getting-matchy-matchy_a_21474525/ 

washingtonpost.com/business/2019/07/10/fashion-trend-that-wont-go-away-matching-clothes-whole-family/

flashbak.com/the-nightmare-that-was-his-her-fashions-371711/ 

90daykorean.com/love-in-korea/

hitchbird.com/blog/display/i-want-to-be-matchie-matchy-with-you-couple-style-b7cb 

theguardian.com/world/2018/may/22/meet-bon-and-pon-the-japanese-retirees-making-coordinated-outfits-cool