“ทฤษฎีสมคบคิด เรื่องลึกลับ สัตว์ประหลาด ฆาตกรรม ความลี้ลับที่หาสาเหตุไม่ได้ เรื่องเล่าจากเคสจริงที่น่ากลัวกว่าฟิกชั่น สวัสดีค่ะนี่คือ CONT.”

     ขออนุญาตเปิดตัวเลียนแบบรายการพอดแคสต์ Untitled Case สักหน่อย เพราะเมื่อวันก่อนเราเพิ่งดู ฆ่าเลียนแบบ (Copycat Killer) ซีรีส์สืบสวนสัญชาติไต้หวันซึ่งสร้างจากหนังสือในชื่อเดียวกันของ ‘มิยูกิ มิยาเบะ’ (Miyuki Miyabe) ว่าด้วยเรื่องของอัยการมือเก๋าผู้ต้องไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ที่คนร้ายมักจะส่งข้อความท้าทายและปั่นกระแสสังคมผ่านรายการทีวีชื่อดัง

     วันนี้เราจึงขอมัดรวม 4 คดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงในอดีต ซึ่งถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ และสารคดี มาแนะนำกัน เผื่อใครอยากลองรับบทเจ้าหนูยอดนักสืบ ร่วมไขคดีไปกับเหล่าตัวละคร หรือหากสนใจอยากฟังเรื่องราวคดีแบบเต็มๆ ก็เชิญที่รายการ Untitled Case ได้เช่นกัน

Hwaseong Serial Murders

     ประเดิมด้วยคดีฝั่งเอเชีย ‘คดีฆาตกรรมต่อเนื่องฮวาซอง’ คือหนึ่งในคดีร้ายแรงที่โด่งดังที่สุดของเกาหลีใต้ เกิดขึ้นในช่วงปี 1986-1991 ซึ่งมีการพบศพที่เมืองฮวาซอง จังหวัดคยองกี ตั้งแต่หญิงวัยรุ่นไปจนถึงหญิงชราจำนวนสิบราย โดยทุกศพถูกมัดมือ ปิดปาก และเสียชีวิตจากการถูกรัดคอด้วยข้าวของส่วนตัวหรือเสื้อผ้าของเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อชั้นใน ถุงเท้า หรือถุงน่อง อีกทั้งพบร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และการฉีกขาดอย่างรุนแรงที่บริเวณอวัยวะเพศด้วย 

     คดีนี้สร้างความสะเทือนขวัญไปทั่วเกาหลี มีการระดมพลตำรวจในการสืบค้นกว่าสองล้านนาย และตรวจสอบผู้ต้องสงสัยกว่าหมื่นคน แต่ด้วยเทคโนโลยีในสมัยนั้นที่ยังไม่ก้าวหน้า ทำให้ทางตำรวจไม่สามารถจับตัวคนผิดมาลงโทษได้ จนถึงปี 2006 คดีนี้ก็หมดอายุความลง

     อย่างไรก็ตาม คดีฆาตกรรมต่อเนื่องฮวาซองถูกนำมาพูดถึงอีกครั้งเมื่อปี 2019 เพราะมีการเปิดเผยว่าตรวจพบดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยบนหลักฐานเก่าที่เก็บไว้ โดยผู้ต้องสงสัยคนที่ว่าคือ ‘อี ชุนแจ’ (Lee Choon-jae) นักโทษที่ถูกจำคุกด้วยคดีฆ่าข่มขืนน้องสาวภรรยาเมื่อปี 1994 แม้จะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ประกอบกับการที่บ้านเกิดของเขาอยู่ที่ฮวาซอง และอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ แต่นายอีก็ให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ และสุดท้ายตำรวจก็จับเขาไม่ได้อยู่ดีเพราะคดีหมดอายุความไปนานแล้ว

—

     • Memories of Murder (2003) ถ่ายทอดเรื่องราวของตำรวจสองนายผู้ต้องรับผิดชอบคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ฮวาซอง ในเรื่องนี้มีการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของตำรวจในสมัยนั้นที่จะจับผู้ร้ายมาลงโทษให้ได้ด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะเป็นการให้ตำรวจหญิงใส่ชุดสีแดงเป็นเหยื่อล่อ ติดต่อกับหมอผีให้ช่วยคลี่คลายคดี หรือกระทั่งการหาแพะรับบาปมาลงโทษเพื่อปิดคดีให้จบๆ ไป ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีซที่ส่งให้ชื่อของ ‘บง จุนโฮ’ (Bong Joon-ho) ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์มีชื่อเสียงไปทั่วเกาหลีใต้

     • Signal (2016) ซีรีส์ที่เล่าเรื่องของ ‘พัค แฮยอง’ (รับบทโดย อี เจฮุน) เจ้าหน้าที่วิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรผู้บังเอิญพบกับวิทยุปริศนาซึ่งนำพาให้เขาติดต่อกับ ‘อี แจฮัน’ (รับบทโดย โจ จินอุง) สายสืบในอดีตได้ ทั้งสองจึงช่วยกันไขคดีที่ยังปิดไม่ได้ในสมัยก่อนด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน โดยหนึ่งในคดีเหล่านั้นคือคดีฆาตกรรมต่อเนื่องฮวาซอง

Ted Bundy

     ‘เท็ด บันดี’ เป็นที่รู้จักในฐานะฆาตกรที่หน้าตาดี มีการศึกษา วาทศิลป์เป็นเลิศ และลงมือฆ่าผู้หญิงอย่างน้อย 30 รายในหลายๆ รัฐในช่วง 1970s ด้วยวิธีการสุดทารุณ เหยื่อทุกคนเป็นหญิงสาววัยรุ่น ถูกพบศพในป่าด้วยสภาพเปลือยเปล่า มีร่องรอยการข่มขืน ถูกบีบคอหรือทุบตีจนเสียชีวิต และเหยื่อบางรายถูกตัดหัวไปเก็บสะสมไว้ในบ้านของบันดีอีกด้วย

     บันดีเคยถูกจับกุมถึงสองครั้ง และแหกคุกหนีมาได้สองครั้งเช่นกัน ก่อนจะถูกจับครั้งสุดท้ายในปี 1978 และถูกตัดสินโทษประหารชีวิต แม้บันดีจะพยายามยื่นอุทธรณ์ ถึงขนาดที่เขาขอเป็นทนายให้ตัวเองในการว่าความ (บันดีเป็นนักศึกษากฎหมาย) แต่ก็ไม่เป็นผล เขาเสียชีวิตบนเก้าอี้ไฟฟ้าในเช้าของวันที่ 24 มกราคม 1989 โดยไม่เคยยอมรับว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็นเรื่องผิดบาปแม้แต่ครั้งเดียว

—

     • Extremely Wicked, Shockingly Evil and Vile (2019) ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องผ่านสายตาของ ‘ลิซ เคนดัลล์’ (รับบทโดย ลิลี คอลลินส์) แฟนสาวที่คบหากับบันดีมาอย่างยาวนาน เรื่องราวเริ่มต้นในปี 1969 ที่พวกเขาได้พบกันครั้งแรก ก่อนจะค่อยๆ เผยว่าชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ไม่ได้ดีอย่างที่เห็น แถมยังเป็นฆาตกรต่อเนื่องใจโหดที่ไม่เคยสำนึกในความผิดตัวเอง โดยมีฉากการพิจารณาคดีในศาลครั้งสุดท้ายของบันดีด้วย

     • Conversations with a Killer: The Ted Bundy Tapes (2019) สารคดีที่รวบรวมบทสัมภาษณ์ บันทึกคำสารภาพ และไฟล์เสียงจริงๆ ของบันดีช่วงที่เป็นนักโทษในเรือนจำที่รัฐฟลอริดา นำเสนอมุมมองและความคิดของฆาตกรคนนี้ โดยสารคดีฉายครั้งแรกในวันที่ 24 มกราคม 2019 หรือ 30 ปีให้หลังจากวันที่บันดีถูกประหาร 

     • No Man of God (2021) ภาพยนตร์ที่สร้างจากบทสนทนาของบันดีกับ ‘บิล แฮกไมเออร์’ (รับบทโดย เอไลจาห์ วูด) เจ้าหน้าที่สอบสวนพิเศษจากเอฟบีไอ โดยในเรื่องจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ไม่มีฉากเลือดสาด มีแต่การพูดคุยด้วยจิตวิทยาและการถ่ายทอดอารมณ์ของนักแสดงล้วนๆ

Zodiac Killer

     ช่วงยุค 1960s มีเหตุฆาตกรรมเด็กวัยรุ่นเกิดขึ้นติดต่อกันในรัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ ก็มีจดหมายปริศนาที่เขียนด้วยลายมือส่งมาถึงสำนักข่าวท้องถิ่น เนื้อความระบุว่าเขาคือคนร้ายในคดีฆาตกรรม พร้อมเล่ารายละเอียดการลงมือเพื่อยืนยันการเป็นฆาตกร ก่อนจะลงท้ายจดหมายด้วยสัญลักษณ์วงกลมขีดฆ่าด้วยเส้นตรงแนวตั้งหนึ่งเส้นกับแนวนอนหนึ่งเส้น คล้ายกับสัญลักษณ์ทางโหราศาสตร์ สื่อและผู้คนในยุคนั้นจึงเรียกเขาว่า ‘ฆาตกรจักรราศี’

     อีกทั้งฆาตกรยังเขียนรหัสลับไว้ในจดหมายอีกสี่ฉบับ โดยขู่ว่าถ้าสำนักข่าวไม่ยอมตีพิมพ์รหัสลับนี้ เขาจะฆ่าคนเพิ่มอีก แม้สำนักข่าวจะยอมตีพิมพ์ตามที่สั่ง แต่สุดท้ายฆาตรกรจักรราศีก็ยังไม่หยุดฆ่าคนสักที และอ้างว่าเขาลงมือฆ่าไปแล้ว 37 ราย แต่ทางการพิสูจน์ได้ว่าเป็นเหยื่อของเขาแน่นอนทั้งหมด 5 ราย

     คดีความนี้หมดอายุความในปี 2004 ก่อนที่ทางเอฟบีไอจะรื้อการสอบสวนขึ้นมาอีกครั้งในปี 2007 เพราะภาพยนตร์ออกฉาย และมีการถอดรหัสลับฉบับที่สองออกในปี 2020 (ฉบับแรกออกในปี 1969) แต่ก็ยังไม่สามารถสาวไปถึงตัวฆาตกรได้จนถึงปัจจุบัน

—

     • Zodiac (2007) ภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฆาตกรจักรราศี (แค่ชื่อก็ตรงเป๊ะ) เล่าเรื่องของ ‘โรเบิร์ต เกรย์สมิธ’ (รับบทโดย เจค จิลเลนฮาล) นักวาดการ์ตูนประจำหนังสือพิมพ์ที่ต้องไปพัวพันกับการไขคดีของฆาตกรจักรราศีร่วมกับตำรวจและนักข่าว โดยสืบจากจดหมายรหัสลับที่ฆาตกรส่งมา

Jack The Ripper

     ปี 1888 ท่ามกลางความมืดมิดของค่ำคืนในย่านไวต์ชาเปล ถิ่นคนจนที่อยู่ด้านตะวันออกของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตำรวจพบศพหญิงขายบริการถูกเชือดคอด้วยมีด ก่อนจะเกิดคดีทำนองนี้อีกสี่เคสภายในเวลาสามเดือน โดยสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือฆาตกรคนเดียวกัน

     คนร้ายที่เรากำลังพูดถึงก็คือ ‘แจ็ก เดอะ ริปเปอร์’ ฆาตกรต่อเนื่องที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ เหยื่อเกือบทั้งหมดของเขาประกอบอาชีพขายบริการ ถูกเชือดคอ ผ่าท้องควักเอาอวัยวะภายในออกมา หรือบางรายก็ถูกเฉือนอวัยวะเพศออกไป คดีฆาตกรรมต่อเนื่องนี้สะเทือนขวัญไปทั่วประเทศ ตำรวจระดมทีมสืบสวนและสอบปากคำผู้ต้องสงสัยกว่าร้อยราย แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว ไม่สามารถจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้ กลายเป็นหนึ่งในคดีที่ปิดไม่ลงจวบจนปัจจุบัน

—

     • From Hell (2001) เรื่องราวของสารวัตรหนุ่มผู้ไม่ใช่เจน แต่ก็มีญาณทิพย์ เขาสามารถมองเห็นเศษเสี้ยวของอนาคต จึงได้รับมอบหมายให้ออกตามล่าและหยุดยั้งแจ็ก เดอะ ริปเปอร์ ฆาตกรผู้สร้างความปั่นป่วนให้ชาวเมืองลอนดอน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากกราฟิกโนเวลในชื่อเดียวกันของ ‘อลัน มัวร์’ (Alan Moore)

     • โคนัน เดอะมูฟวี่ 6 ปริศนาบนถนนสายมรณะ (2002) สำหรับเดอะมูฟวี่ภาคนี้เจ้าหนูโคนันจะต้องเข้าไปร่วมเล่นเกมเสมือนจริง ซึ่งถ้าตายในโลกเกม ตัวจริงก็จะตายไปด้วย โดยในเกมนี้เขาจะต้องไขปริศนาเหตุการณ์ฆาตกรรมที่ผู้ตายทิ้งดายอิ้งเมสเซจไว้ว่า JTR หรือตัวย่อของ Jack The Ripper นั่นเอง