Thu 26 May 2022

STRANGER THINGS

สรุปเนื้อเรื่อง 3 ภาครวดแบบไม่พัก จัดหนักเตรียมพร้อมสำหรับซีซั่น 4

ภาพ: ms.midsummer

     ห่างหายกันไปนาน (มากกกก) สำหรับคอลัมน์ ‘SKIP INTRO’ คราวนี้เรากลับมาพร้อมกับ Stanger Things ซีรีส์ไซไฟย้อนยุคที่มาแรงมว้ากกกกทุกครั้งที่ออกอากาศ เรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่สร้างชื่อให้ Netflix เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้

     นอกจากจำนวนผู้ชมที่สูงลิบลิ่วในทุกซีซั่น ยังมีการไปคอลแล็บกับแบรนด์ต่างๆ รวมไปถึงตัวนักแสดงอย่าง มิลลิ บ็อบบี้ บราวน์ (Millie Bobby Brown) สาวน้อยตัวเอกของเรื่องก็กลายเป็นนักแสดงดาวรุ่งสุดฮอตอันดับต้นๆ ในวงการ

     เดิมทีไอ้เราก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่นัก แต่เพราะโดนผู้ชายใกล้ตัวท่านหนึ่ง (aka แฟน ใช่ค่ะ นี่คือการขิง เคยบอกแล้วว่าถ้ามีแฟนฉันจะประกาศให้โลกรู้ ขอบคุณสำหรับพื้นที่ค่ะ) ไซโคให้ดูมาก ด้วยความว่างก็เลยลองเปิดใจดูสักตอน

     สักตอน = จบหนึ่งซีซั่นในสองวัน

     แม่ มันหยุดดูไม่ได้เลย มีปริศนายุบยับแฝงไว้ทุกตอน แถมตัดจบได้ทำร้ายกันมาก จนต้องกดดูต่อโดยอัตโนมัติ เข้าใจแล้วว่าทำไมทั้งโลกถึงไฮป์กัน ยิ่งพอได้ยินข่าวว่าซีซั่น 4 พาร์ต 1 จะออนแอร์วันที่ 27 พฤษภาคมนี้ เราจึงถือโอกาสใช้หน้าที่การงานดูสามซีซั่นรัวๆ เพื่อมาเขียนสรุปเนื้อเรื่องให้ทุกคนอ่านก่อนไปตะลุยซีซั่นใหม่พร้อมกัน 

     ไม่พูดเยอะดีกว่า เพราะเนื้อหาต่อไปนี้แน่น จุก และสนุกมาก

     มา เริ่ม!

Title: Stranger Things
Year: 2016-2019
Genre: Horror, Supernatural, Sci-Fi 
Episode: 8 / 9 / 8 (per season)
Available on: Netflix

SEASON 1

     เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในค่ำคืนที่ฝนกระหน่ำไปทั่วเมืองฮอว์กินส์ เด็กหนุ่มสี่คนประกอบไปด้วย ‘ไมค์ วีลเลอร์’ (รับบทโดย ฟินน์ วูล์ฟฮาร์ด) ‘ดัสติน เฮนเดอร์สัน’ (รับบทโดย เกเทน มาทาราซโซ) ‘ลูคัส ซินแคลร์’ (รับบทโดย เคเลบ แมคลาฟลิน) และ ‘วิล ไบเออร์ส’ (รับบทโดย โนอาห์ ชแนปป์) กำลังเล่น Dungeons & Dragons เกมกระดานสวมบทบาทที่ว่าด้วยการผจญภัยของเหล่าตัวละครแต่ละเผ่าพันธุ์ 

     เกมดำเนินและจบลงไปตามปกติ ทั้งสี่คนแยกย้ายกลับบ้าน ทว่าระหว่างทางหนุ่มน้อยวิลดันแจ็กพอตแตก รับบทผู้โชคร้ายเจอกับตัวประหลาดที่หลุดออกมาจากห้องแล็บ ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

     การหายตัวไปของวิลทำให้แม่—‘จอยซ์’ (รับบทโดย วิโนนา ไรเดอร์) และพี่ชาย—โจนาธาน’ (รับบทโดย ชาร์ลี ฮีตัน) ร้อนใจมาก ทั้งคู่รีบไปแจ้งความและขอให้ ‘จิม ฮ็อปเปอร์’ (รับบทโดย เดวิด ฮาร์เบอร์) นายอำเภอคนสนิทของจอยซ์ช่วยตามหาเด็กชาย 

     เวลาผ่านไปเรื่อยๆ แต่คดีกลับไม่คืบหน้า แก๊งเด็กๆ จึงตัดสินใจออกตามหาเพื่อนด้วยตัวเอง จนเจอกับเด็กสาวปริศนาในป่า ซึ่งต่อมาก็ได้รู้ว่าเธอชื่อ ‘อีเลเว่น’ (รับบทโดย มิลลิ บ็อบบี้ บราวน์) ที่แปลว่าเลข 11 (You make me feel like ELEVEN /รับบทน้องวอนยอง) เหนือไปกว่านั้นเธอยังมีพลังจิตโยกย้ายสิ่งของและติดต่อกับคนที่อยู่ไกลได้ด้วย

     ไมค์สถาปนาชื่อใหม่ให้อีเลฟเว่นว่า ‘แอล’ ให้เธอหลบซ่อนอยู่ในห้องใต้ดินของบ้าน และขอให้เธอเข้าร่วมภารกิจตามหาวิล

     ยิ่งเวลาผ่านไปนาน โอกาสในการเจอตัวผู้สูญหายก็ยิ่งน้อยลง อยู่ดีๆ จอยซ์ก็ได้รับโทรศัพท์ปริศนา ซึ่งคนที่โทรมาคือวิล! อ้าวเฮ้ย บักวิล นายโทรมาได้ยังไงก่อน แม้เสียงโทรขาดๆ หายๆ จนไม่สามารถจับใจความได้ แต่จอยซ์ก็มั่นใจว่าลูกชายของเธอยังมีชีวิตอยู่

     ตัดภาพไปที่ฝั่งโจนาธานซึ่งพยายามตามหาน้องชายด้วยวิธีของตนเอง ขณะกำลังถ่ายภาพจุดที่วิลหายไป เขาได้ยินเสียงกรีดร้องจึงวิ่งไปดูด้วยความไวแสง แต่ก็พบกับความผิดหวัง เพราะนั่นเป็นเพียงเสียงจากปาร์ตี้ของกลุ่มวัยรุ่น ประกอบไปด้วย ‘แนนซี่ วีลเลอร์’ (รับบทโดย นาตาลี ดายเออร์) พี่สาวของไมค์และผู้สาวที่โจนาธานแอบปลื้มอยู่ห่างๆ ‘สตีฟ แฮร์ริงตัน’ (รับบทโดย โจ คีรี) หนุ่มฮอตประจำโรงเรียน และ ‘บาร์บารา ฮอลแลนด์’ (รับบทโดย แชนนอน เพอร์เซอร์) เพื่อนสนิทของแนนซี่ (จริงๆ ยังมีตัวประกอบนิสัยไม่ดีอีกสองคนตามสไตล์วัยรุ่นไฮสคูลด้วย)

     บาร์บ (ย่อมาจากบาร์บารา) ชวนแนนซี่กลับบ้านเพราะเห็นว่าดึกแล้ว แต่ด้วยความรักที่บดบังสายตา แนนซี่เลยปฏิเสธและขอให้เธอกลับไปก่อน ด้วยความเศร้าและเสียใจ บาร์บเลยหลบมานั่งเงียบๆ คนเดียวที่สระว่ายน้ำ ขณะเดียวกันโจนาธานก็ยังไม่ไปไหน เขายืนหลบอยู่แถวนั้น แอบถ่ายรูปแนนซี่ตอนกำลังนัวกับสตีฟ ถ่ายไปก็เจ็บหัวใจไป เลยเบนกล้องไปถ่ายบาร์บสักแชะ เสร็จแล้วฟิล์มหมดพอดี ก้มเปลี่ยนสักหน่อยแล้วกัน

     จังหวะที่โจนาธานกำลังง่วนกับฟิล์ม เลือดจากแผลของบาร์บที่ได้มาตอนปาร์ตี้ก็หยดลงบนสระว่ายน้ำ จากนั้นเธอก็หายสาบสูญไปเมื่อโจนาธานเงยหน้าขึ้นมา

     บร๊ะ บักโจนาธาน มันจะเงยหน้ามาเร็วกว่านั้นสักวินาทีไม่ได้เราะ!

     แอลใช้พลังจิตตามหาวิล ก่อนจะพบว่าเขาอยู่ในโลกกลับด้าน เพื่อนก็งงหลาย โลกกลับด้านคืออิหยังวะ (เฉลยตรงนี้คือโลกคู่ขนานใบเดียวกับเรานี่แหละ แต่เป็นที่ที่สัตว์ประหลาดอาศัยอยู่) แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ ทั้งหมดจึงเลือกเดินทางไปตามที่แอลบอก โดยเริ่มออกเดินทางจากห้องใต้ดินบ้านไมค์

     พอดีกับที่จอยซ์เริ่มสังเกตอะไรบางอย่างในบ้านได้ เธอรู้สึกว่าไฟกะพริบแปลกๆ เลยพยายามบอกโจนาธานว่าวิลกำลังสื่อสารกับพวกเขาอยู่ แน่นอนว่าโจนาธานไม่เชื่อ คิดว่าแม่เป็นบ้าไปแล้ว จอยซ์จึงเริ่มปฏิบัติภารกิจเดี่ยว ไปเหมาไฟคริสต์มาสมาติดทั้งบ้าน มาเลยลูกจ๋า มาคุยกับแม่นี่มา 

     วิธีการคุยคือใช้ไฟ 26 ดวงกับตัวอักษรภาษาอังกฤษ 26 ตัว เมื่อจอยซ์ถามอะไร วิลก็จะตอบกลับมาด้วยการสะกดทีละตัว เรียกได้ว่าเท่และเป็นฉากซิกเนเจอร์ของเรื่อง แต่คุยได้ไม่เท่าไหร่เจ้าสัตว์ประหลาดก็รู้ตัว วิลเลยบอกให้แม่หนีไป

     เด็กๆ เดินทางมาถึงบ้านวิลตามการนำทางของแอล แน่นอนว่าทั้งงงทั้งโมโห จะมาที่นี่ทำไมก่อนสาว ยังไม่ทันได้ฟาดงวงฟาดงา เสียงรถตำรวจก็มาดึงความสนใจไปก่อน พวกเขาจึงรีบตามไป ก่อนจะพบกับการกู้ร่างของวิลขึ้นจากน้ำ สร้างความสะเทือนใจและผิดหวังที่แอลโกหกกัน

     แอลพยายามพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้โกหก เธอเลยใช้พลังจิตสื่อสารกับโลกกลับด้าน เมื่อได้ยินเสียงของวิลอีกครั้ง ไมค์ก็เริ่มเชื่อ และชวนเพื่อนๆ ให้มาช่วยกันตามหาวิลอีกรอบ คราวนี้พวกเขาร่วมกันแปลงโฉมให้แอลเป็นสาวน้อยวัยใส เพื่อพาเธอเข้าไปห้องโสตของโรงเรียนที่มีเครื่องรับสัญญาณวิทยุสุดเจ๋ง 

     คราวนี้แอลใช้พลังจนทุกคนได้ยินเสียงวิลอีกครั้งแบบชัดเจน 4K ประหนึ่งเสียงโฆษณารถกระบะในโรงหนัง เด็กชายทั้งสามคนจึงเริ่มคิดถึงทฤษฎีโลกคู่ขนาน และนำคำถามปวดสมองไปให้ครูวิทยาศาสตร์ ก่อนจะได้รับคำตอบว่าเรื่องมิติอื่นบนโลกนั้นเป็นไปได้จริงทางทฤษฎี และจะเข้าไปได้ก็ต้องใช้ประตู 

     เมื่อกลับมาที่บ้านไมค์ ดัสตินก็สังเกตว่าเข็มทิศมีทิศทางแปลกไป จึงสรุปได้ว่าตอนนี้มีสนามพลังแม่เหล็กที่ใหญ่มากอยู่ไม่ไกล จนทำให้เข็มทิศเปลี่ยนทาง ทั้งหมดเลยตัดสินใจเดินไปตามเข็มทิศเพื่อหวังจะไปหาประตู แต่เดินไปเท่าไหร่ก็กลับมาทางเดิม เพราะแอลใช้พลังป่วนเข็มทิศอีกที ลูคัสที่อคติกับแอลมาตั้งแต่ต้นก็เริ่มหัวเสีย ทะเลาะกันไปมาจนแอลเผลอใช้พลังจนลูคัสบาดเจ็บ ไมค์เห็นแบบนั้นเลยตะคอกใส่เธอ แอลเสียใจและกลัวเพราะเส้นทางตามที่เข็มทิศนำทางไปคือห้องแล็บที่เธอหนีมา แอลจึงหนีไปอีกรอบ

     ส่วนจอยซ์กับโจนาธาน หลังจากได้ข่าวเรื่องวิลก็พุ่งไปที่แผนกนิติเวช แต่มองปราดเดียวจอยซ์ก็รู้ว่าเด็กที่อยู่บนเตียงนั้นไม่ใช่วิลแน่นอน เธออธิบายให้ฮ็อปเปอร์ฟัง ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อ แต่เพราะความแปลกของกระบวนการต่างๆ ฮ็อปเปอร์จึงตามสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขากลับไปที่ห้องเก็บศพอีกครั้ง และพบว่าศพของวิลเป็นหุ่นที่ถูกจำลองขึ้นมา ฮ็อปเปอร์ตัดสินใจบุกเข้าไปในห้องแล็บฮอว์กินส์ ก่อนจะพบกับประตูมิติปริศนาที่เต็มไปด้วยเมือก แล้วก็โดนจับได้ตามระเบียบ

     แนนซี่ติดใจเรื่องการหายตัวไปของบาร์บ เธอพยายามหาคำตอบด้วยการกลับไปที่บ้านของสตีฟ แนนซี่เจอกับสัตว์ประหลาดมีแขนมีขาแต่ไม่มีหน้า ซึ่งตรงกับคำพูดที่จอยซ์เล่าให้โจนาธานฟัง โจนาธานจึงร่วมมือกับแนนซี่ในการไปล่าสัตว์ประหลาดด้วยกัน

     ระหว่างกำลังเดินอยู่ในป่า ความตาดีของแนนซี่ก็ทำให้เธอเจอประตูเมือกที่ใต้โคนต้นไม้ ความอยากรู้อยากเห็นก็ทำให้เธอมุดเข้าไป และเจอกับสัตว์ประหลาดกำลังกินซากกวาง แนนซี่กรีดร้องเสียงดัง แต่โจนาธานหาตัวเธอไม่เจอ จนกระทั่งไปสังเกตเห็นประตูเมือกนั้นและช่วยดึงแนนซี่ออกมาได้ทันหวุดหวิด

     คืนนั้นแนนซี่ขอให้โจนาธานนอนเป็นเพื่อน บังเอิ๊ญบังเอิญที่อีตาสตีฟมันนึกคึกอยากจะมาเจอเธอวันนั้นพอดี ก็โป๊ะเช๊ะ เจอที่นอนปริศนา (ก่อนหน้านี้สตีฟขอมานอนด้วย แต่แนนซี่ไม่เคยยอมเลย) ชีก็โกรธสิคะ วันต่อมาก็เลยร่วมมือกับแก๊งเด็กขี้บูลลี่เขียนด่าแนนซี่ตรงป้ายโรงหนัง พอเห็นหน้าโจนาธานก็ไปล้อเรื่องวิลตาย เอาล่ะ ของขึ้น วัยรุ่นต่อยกัน ตุ้บตั้บๆ ตำรวจมา โจนาธานโดนจับไปโรงพัก แล้วก็เจอแม่กับฮ็อปเปอร์

     ฮ็อปเปอร์รู้แล้วว่าจอยซ์พูดถูกตลอดมา พวกเขาขับรถไปหาเทอร์รี่ ผู้หญิงที่น่าจะเป็นแม่ของแอล ได้ฟังเรื่องราวต่างๆ จากน้องสาวของเทอร์รี่ และได้รู้ว่าจริงๆ แล้วแอลมีชื่อว่าเจน (อันนี้ถือว่าให้ข้อมูลสักหน่อยเพราะมีผลกับภาคสอง) 

     กลับมาที่ภาคแรกกันต่อ ด้านห้องแล็บรู้แล้วว่าแอลไปอยู่กับพวกไมค์ เพราะจับสัญญาณที่ห้องโสตของโรงเรียนได้ เลยออกตามล่าตัวเธอ ลูคัสที่แม้จะโมโหแอลและเพื่อนจนออกไปลุยเดี่ยว แต่เมื่อเห็นว่าแอลกำลังตกอยู่ในอันตราย ก็รีบวอไปหาดัสตินกับไมค์ ทว่าระหว่างที่สองคนนั้นกำลังตามหาแอล ก็ดันไปเจออริที่โรงเรียน ตัวประกอบขี้บูลลี่ไซส์จิ๋วสั่งให้ไมค์กระโดดหน้าผา ไม่งั้นจะถอนฟันของดัสติน ไมค์จำใจยอมกระโดด แต่ยังไม่ทันถึงครึ่งทาง แอลก็ใช้พลังดึงไมค์กลับขึ้นมา และจัดการพวกบูลลี่ไซส์จิ๋วออกไปได้

     ลูคัส ไมค์ ดัสติน และแอลมาพบกันอีกครั้งตอนกำลังถูกไล่ล่าโดยเจ้าหน้าที่ห้องแล็บฮอว์กินส์ แอลโชว์พลังยกรถตู้ฟาดไปทีนึง สร้างความประทับใจให้ทุกคน และทั้งหมดก็กลับมาคืนดีกัน 

     จากนั้นทุกทีมอันประกอบไปด้วยแก๊งเด็ก แก๊งวัยรุ่น และแก๊งผู้ใหญ่ก็ได้มารวมกลุ่มกัน (สักที!) แอลใช้วิธีเดียวกับในห้องแล็บในการสื่อสารกับคนที่อยู่ไกลด้วยการลอยตัวในสระปิดสัมผัส เธอหาตัวบาร์บเจอ และพบว่าบาร์บตายไปนานแล้ว ส่วนวิลยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็สภาพย่ำแย่เต็มทน ต้องรีบไปช่วยออกมาให้เร็วที่สุด

     จอยซ์กับฮ็อปเปอร์ตรงไปห้องแล็บฮอว์กินส์พร้อมกับฝากให้แนนซี่กับโจนาธานช่วยดูเด็กๆ ทีนี้เรามาติดตามกันไปทีละทีม

     ฝั่งผู้ใหญ่พอไปถึงก็โดนจับแน่นอน เพราะเขามีกล้องจ้า แต่ด้วยสกิลการต่อรองแลกกับข้อมูลว่าแอลอยู่ที่โรงเรียนก็ทำให้ทั้งสองผ่านประตูมิติเมือกเข้าไปช่วยวิลได้ อันที่จริงที่ทีมห้องแล็บอนุญาตให้เข้าไปเพราะไม่เชื่อว่าทั้งสองจะสามารถช่วยชีวิตวิลกลับออกมาได้จริงๆ  

     ฝั่งวัยรุ่น โจนาธานกับแนนซี่เชื่อว่าทั้งคู่จะสามารถปราบสัตว์ประหลาดได้ เลยทิ้งเด็กๆ ไว้ที่โรงเรียน แล้วไปสร้างกับดักที่บ้านวิล เตรียมการอย่างดี แต่อยู่ดีๆ สตีฟก็โผล่มาเพื่อขอโทษ ช่างถูกเวลาเสียจริง แล้วทั้งสามคนก็ช่วยกันสู้กับสัตว์ประหลาด ทว่าท้ายที่สุดแล้วมันกลับไม่ตาย

     ฝั่งเด็กๆ ที่คิดว่าจะได้รอเฉยๆ แต่ไม่ใช่เลยจ้า เพราะทีมห้องแล็บมาถึงแล้ว เหล่าเจ้าหน้าที่พยายามมาเอาตัวแอลไป แต่แอลก็สู้กลับ ยังไม่ทันชนะหรือแพ้ อสูรเดโมกอร์กอน (ก็คือสัตว์ประหลาดนั่นแหละ แต่เป็นคำจากเกม Dungeons & Dragons ที่เด็กๆ ใช้เรียกกัน ไม่รู้จะใส่ตรงไหน เลยขอวางตรงนี้แบบดื้อๆ) ก็โผล่มาแล้วไล่ฆ่าทุกคน

     แอลกับผองเพื่อนหนีมาในห้องเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ แต่อสูรร้ายก็ตามมา แอลจึงตัดสินใจใช้พลังทั้งหมดปิดจ๊อบกับมันซะเลย ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (อ่านออกเสียงเหมือนคนกำลังตะโกนต่อสู้สุดแรง) แล้วสัตว์ประหลาดก็ตาย พร้อมกับแอลที่หายตัวไป

     จอยซ์กับฮ็อปเปอร์หาตัววิลจนเจอ และช่วยชีวิตเขาได้ทันเวลา หลายเดือนต่อมาทุกคนกลับไปใช้ชีวิตตามเดิม ก่อนจะปิดท้ายด้วยซีนที่วิลยังคงได้รับผลกระทบจากโลกกลับด้าน และอ้วกออกมาเป็นตัวทากสีดำ ซึ่งจะกลายเป็นปริศนาสำคัญของซีซั่นที่ 2

SEASON 2

     หนึ่งปีต่อมา เด็กๆ เริ่มโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (ผู้กำกับอาจกุมหัวว่าถ่ายๆ ไปแล้วพวกเขาจะสูงขึ้นอีกไหม) ไมค์พยายามติดต่อกับแอลอยู่ตลอด แต่ก็ได้รับเพียงความเงียบตอบกลับมา

     ทุกอย่างดูเหมือนดำเนินไปอย่างปกติ เว้นแต่วิลที่ยังคงรู้สึกเหมือนติดอยู่ในโลกกลับด้านในบางครั้ง แน่นอนว่าการกลับมามีชีวิตอีกครั้งทำให้คนรอบตัวเป็นห่วงเขาแบบพิเศษใส่ไข่ใส่ใจยกกำลังสิบ ไม่ว่าจะเป็นจอยซ์กับโจนาธานที่ต้องคอยไปรับไปส่ง บรรดาเพื่อนๆ ที่คอยดูแลไม่ให้คลาดสายตา รวมไปถึงคนรอบตัวที่มองว่าวิลเป็นซอมบี้บอย

     ขณะเดียวกัน ดัสตินกับลูคัสกำลังพยายามผูกมิตรกับ ‘แม็กซ์ เมย์ฟิลด์’ (รับบทโดย เซดี ซิงก์) เพื่อนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจากแคลิฟอร์เนียเจ้าของสถิติเกมแข่งรถอันดับหนึ่งในร้านเกม เธอมีพี่ชายซึ่งเป็นลูกติดของพ่อเลี้ยงชื่อว่า ‘บิลลี่ ฮาร์โกรฟ’ (รับบทโดย เดเคอ มอนต์โกเมอรี่) ว่าที่ตัวละครขี้บูลลี่ประจำซีซั่น 

     จอยซ์พาวิลไปรักษาที่ห้องแล็บฮอว์กินส์อย่างต่อเนื่อง มีหมอพยายามมาพูดคุยด้วยอย่างสม่ำเสมอ พร้อมบอกกับครอบครัวว่าไม่มีน่ากังวล แต่ความจริงแล้วประตูมิติเมือกยังคงเปิดอยู่ และอาการของวิลก็เริ่มแย่ลง เขาเห็นภาพหลอนว่าตัวเองกลับไปอยู่โลกกลับด้านบ่อยขึ้น พอปรึกษากับ ‘บ็อบ นิวบี้’ (รับบทโดย ฌอน แอสติน) แฟนใหม่ของจอยซ์ เขาก็บอกให้วิลลองลุกสู้สักตั้ง พอสู้เท่านั้นแหละค่ะท่าน อสุรกายเงาบินพุ่งเข้าร่างวิลไปเลยจ้า

     เอาล่ะ หลายคนคงอยากรู้แล้วว่า แอลตายจริงไหม ซึ่งคำตอบก็คืออออ ไม่จริง! (ตื่นเต้นทำไม) 

     ความเดิมตอนที่แล้วคือแอลสู้กับอสูรเดโมกอร์กอนจนหายตัวไป โผล่มาอีกทีคืออยู่ในโลกกลับด้าน แต่ไม่นานก็กลับออกมาได้ เธอรีบวิ่งไปหาไมค์ที่บ้าน ทว่าก็เจอกับรถตำรวจเต็มไปหมด แอลจึงตัดสินใจหันหลังกลับไป เพื่อไม่ให้ไมค์ต้องเจอเรื่องยุ่งยาก 

     แอลใช้ชีวิตอยู่ในป่าสักพักก็ได้พบกับฮ็อปเปอร์ เขาชวนเธอมาอยู่ด้วยกัน และเลี้ยงดูเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง แต่มีกฎเหล็กคือแอลห้ามออกจากบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งระยะเวลาราวหนึ่งปีนั้น แอลก็ไม่ได้ออกไปไหนเลยแม่ นั่งดูแต่ทีวี กินแต่ขนม แต่ผมขึ้นแล้ว

     ฮ็อปเปอร์ได้รับรายงานจากชาวบ้านหลายคนว่าฟักทองที่ปลูกไว้ตายเรียบ เขาพยายามสืบค้นสาเหตุจนลืมนัดดูหนังกับแอลในคืนวันฮาโลวีน พอกลับมาเจ้าเด็กก็งอนยกใหญ่ ก่อนจะมีปากเสียงกันและแอลก็ใช้โอกาสตอนฮ็อปเปอร์ไปทำงาน แอบออกไปหาไมค์

     แล้วก็ตามสูตร ตอนเขารำพึงรำพันไม่เคยเจอ ดันไปเห็นภาพตอนไมค์กำลังเล่นกับแม็กซ์อยู่ เอ้า โกรธเลยดิ ไอ้พวกผู้ชายมันไว้ใจไม่ได้ พอกลับบ้านมาก็โดนฮ็อปเปอร์จับได้อีก โอ๊ยชีวิต ระหว่างที่กำลังจัดเก็บบ้านที่ตัวเองระเบิดจนหน้าต่างพัง แอลเจอแฟ้มคดีของเทอร์รี่ หญิงสาวที่อ้างว่าโดนขโมยลูก เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปตามหาความจริง

     ดัสตินเก็บลูกอ๊อดหน้าตาประหลาดจากถังขยะหน้าบ้านมาเลี้ยง แต่เมื่อเอาไปอวดเพื่อนๆ กลับต้องพบกับความผิดหวัง เพราะนอกจากจะไม่ชอบหน้าแล้ว วิลยังบอกว่าไอ้ตัวนี้มันคือตัวทากที่เขาเคยอ้วกออกจากปากเมื่อปีก่อนแน่เลย มันไม่สมควรอยู่ตรงนี้ จับมันไปประหารรรร แต่ดัสดินก็ตัดใจไม่ลงและคงไม่ทำ เขาแอบเก็บลูกอ๊อดน้อยไว้เงียบๆ คนเดียว

     ด้านแนนซี่ยังคงทำใจไม่ได้ที่เสียเพื่อนสนิทไปเมื่อปีก่อน แถมครอบครัวของบาร์บก็ยังไม่รู้ ยังมีความหวังว่าจะหาลูกสาวเจอ เธอจึงเครียดมาก แต่ดูเหมือนสตีฟจะไม่เก็ต ทั้งคู่ทะเลาะกันหลายครั้ง จนแนนซี่หันไปหาโจนาธาน พวกเราไปตามหาความจริงกันเถอะ แล้วทั้งสองคนก็เข้าไปพัวพันกับห้องแล็บฮอว์กินส์อีกครั้ง ก่อนจะได้รู้ว่าประตูมิติเมือกยังเปิดอยู่ และไปตามหาคนเพื่อขอความช่วยเหลือ

     หลังวิลโดนอสุรกายเงาสิงร่าง เขาก็กลายร่างเป็นตู้เย็นทันที (หมายถึงชอบของเย็นๆ น่ะ) พร้อมกับการรับรู้ถึงการมีอยู่ของมันในตัว วิลวาดภาพอุโมงค์ใต้ดินรอบฮอว์กินส์ออกมา ซึ่งฮ็อปเปอร์สังเกตว่ามันไปตรงกับจุดที่ฟักทองเน่าเสียพอดี เขาจึงออกไปตามสืบคดีลำพัง และโดนโจมตีจนสลบอยู่ที่อุโมงค์ใต้ดิน

     เจ้าลูกอ๊อดน้อยของดัสตินเติบโตในเวลาชั่วข้ามคืนและกินแมวที่บ้านไปหนึ่งตัวเต็มๆ ดัสดินจึงจับมันไปขังไว้ในห้องเก็บข้องชั้นใต้ดิน เขาไปตามหาไมค์ วิล และลูคัส แต่ไม่มีใครอยู่บ้านสักคน เผอิญเจอสตีฟที่เตรียมดอกไม้มาง้อแนนซี่ เลยเอาวะ ไอ้หมอนี่ก็คงพอใช้ได้ ลากสตีฟมาร่วมภารกิจพิชิตลูกอ๊อด ทว่าพอมาถึง ไอ้บักลูกอ๊อดยักษ์นั่นมันวิ่งทะลุกำแพงหนีไปแล้ว

     ส่วนลูคัสที่หายไปคือไปเล่าความจริงเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดให้แม็กซ์ฟัง ตอนแรกเธอก็ไม่เชื่อ แต่พอได้เจอกับฝูงหมาเดมอร์ (มาจากอสูรเดโมกอร์กอน + ด็อก) หรือแก๊งเพื่อนลูกอ๊อดยักษ์ของดัสตินก็เชื่อในทันที 

     แนนซี่กับโจนาธานไปหา ‘เมอร์เรย์ บาวแมน’ (รับบทโดย เบรตต์ เกลแมน) นักสืบเอกชนที่ถูกจ้างให้สืบการหายตัวไปของบาร์บารา และขอให้เขาช่วยกระจายข่าวเรื่องการทดลองในห้องแล็บ นอกจากเมอร์เรย์จะช่วยหาวิธีที่ทำให้คนเชื่อได้แล้ว ยังทำให้แนนซี่กับโจนาธานรู้ใจตัวเองอีกด้วย กิ๊วๆ

     วิลที่มีอสุรกายเงาอยู่ในตัวสามารถรู้ได้ว่าฮ็อปเปอร์อยู่ตรงไหน จอยซ์ติดต่อผู้คนจากห้องแล็บและรวมพลกันไปหา พวกเขาช่วยเหลือฮ็อปเปอร์ได้ทันเวลาพร้อมกับจุดไฟเผาสัตว์ประหลาดยึกหยึยในอุโมงค์ใต้ดิน ซึ่งส่งผลให้วิลได้รับความเจ็บปวดไปด้วย

     เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกที วิลก็นอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลแล้ว จากการวินิจฉัยพบว่าวิลเปรียบเสมือนโฮสต์ของอสุรกายเงา (รับบทย่าบาหยัน) ไมค์ให้กำลังใจทำนองว่า ว้าว นายเหมือนสปายเลย แต่จริงๆ แล้วมันบ่ใช่เลย เพราะวิลเป็นหุ่นเชิดที่โดนควบคุมความคิดไปเรียบร้อย โดยเขาแกล้งบอกให้เจ้าหน้าที่ไปรวมตัวกันในอุโมงค์ เพื่อกำจัดสัตว์ประหลาด ทว่าแท้จริงเป็นกับดักให้หมาเดมอร์มาไล่ฆ่าต่างหาก

     ไล่ล่ากันจากอุโมงค์ยาวมาจนถึงโรงพยาบาล กว่าจะได้สติก็ตายกันไปเกินครึ่ง เหลือแต่แก๊งตัวเอก เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไฟดันดับ ประตูอัตโนมัติเปิดไม่ออก ถึงคราวฮีโร่ออกโรง บ็อบอาสาลงไปปลดล็อกรหัสประตู พอทุกคนออกไปได้อย่างปลอดภัย ไอ้เราก็คิดอยู่ในใจว่ามันไม่น่าง่ายขนาดนั้น ซึ่งก็ไม่พลาดค่ะ บักบ็อบ = ตัวละครที่ต้องสละชีพเพื่อสร้างความสั่นสะเทือนใจไว้ในใจเหล่าตัวเอก

     ตุยเย่ไปหนึ่ง

     แอลเดินทางไปถึงบ้านเทอร์รี่ และพยายามสื่อสารกับผู้เป็นแม่ ก่อนจะได้เข้าไปในความทรงจำและรู้ว่าเธอคือเจน ลูกสาวที่โดนขโมยตัวมาจริงๆ ทั้งนี้ยังมีพี่สาวอีกคนที่อยู่ในห้องแล็บฮอว์กินส์ด้วย แอลจึงออกเดินทางต่อ เพื่อไปตามหาเธอคนนั้น

     ใช้เวลาไม่นานแอลก็หา ‘กาลี’ (รับบทโดย ลินเนีย เบอร์เธลเซน) หญิงสาวผู้มีพลังจิตในการสร้างภาพลวงตาจนพบ และได้รับการชักชวนให้เข้าร่วมกลุ่มอาชญากรสุดพังก์ โดยมีเป้าหมายหลักคือตามหาผู้คนในห้องแล็บฮอว์กินส์ที่ทำการทดลองและทรมานพวกเธอ (กาลีกับแอล)

     แม้กาลีจะช่วยหาวิธีให้แอลขยายขอบเขตความสามารถจนเก่งกว่าเดิม แต่สุดท้ายแอลก็เลือกที่จะหันหลังให้กับการแก้แค้น และกลับไปช่วยเพื่อนๆ 

     แก๊งเด็กแอนด์สตีฟ แก๊งโรงพยาบาล และแก๊งวัยรุ่นนักรักมารวมตัวกันอีกครั้งที่บ้านวิล ดัสตินอธิบายว่าสิ่งที่สิงวิลอยู่เรียกว่า ‘จอมเปิดโปง’ ซึ่งจะเข้าควบคุมสมองและจิตใจของสิ่งมีชีวิตอื่น ด้วยความคิดว่าตัวเองเป็นผู้เหนือกว่า ทุกคนพยายามเอาวิลไปซ่อนเพื่อไม่ให้จอมเปิดโปงรู้และใช้งานได้อีก พร้อมกับพยายามให้วิลบอกวิธีเอาชนะ ซึ่งก็ได้คำตอบว่าต้องปิดประตูเมือกนั่นซะ

     ซ่อนตัวไม่นานก็โป๊ะแตก จอมเปิดโปงหาตัววิลเจอ ระหว่างที่กำลังหาวิธีจัดการ แอลก็โผล่มาทันเวลาพอดี อย่างกับรู้ใจ มาได้ตรงเวลาพอดี อย่างกับนัดกันไว้ เอาล่ะ พอสมาชิกครบก็ได้เวลาแบ่งทีม

     จอยซ์ โจนาธาน และแนนซี่ นำวิลไปที่กระท่อมของฮ็อปเปอร์เพื่อทำพิธีเอาอีมิ้งออกจากร่าง 

     ฮ็อปเปอร์และแอลกลับไปที่ห้องแล็บฮอว์กินส์เพื่อปิดประตูเมือก

     ไมค์ ลูคัส ดัสติน แม็กซ์ และสตีฟควรจะรอเฉยๆ แต่มันเป็นไปไม่ได้ ด้วยความที่หมาเดมอร์อยู่เต็มแล็บ ขืนแอลใช้พลังสู้เดี๋ยวจะหมดแรงก่อน แก๊งนี้เลยเปิดภารกิจเดี่ยวด้วยการล่อหมาเดมอร์มาที่อุโมงค์เพื่อช่วยให้แอลปิดประตูได้ง่ายขึ้น 

     แน่นอนว่าแผนการทั้งหมดสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี อีมิ้งออกจากร่างวิล ประตูเมือกถูกปิด และข่าวเรื่องการทดลองในห้องแล็บก็แพร่กระจายออกไป ทำให้รัฐบาลต้องออกมายอมรับถึงความผิดพลาด และปิดตัวห้องแล็บฮอว์กินส์ถาวร

     ฮ็อปเปอร์กับแอลกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน โจนาธานคบกับแนนซี่ ลูคัสเป็นแฟนกับแม็กซ์ และสุดท้ายไมค์ก็ได้ควงแอลไปงานเต้นรำ

SEASON 3

     ในที่สุดก็มาถึงซีซั่น 3 ใครอ่านถึงตรงนี้พักสายตาดื่มน้ำกันก่อนสักหน่อย (ด้านคนเขียนก็ขอบิดตัวก่อนหนึ่ง) ขอบอกเลยว่าสเกลของภาคนี้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

     เอาล่ะ ต่อเลยนะ

     ซีซั่นนี้ทุกคนกลายเป็นวัยรุ่นกันถ้วนหน้า แถมแฟชั่นยังจัดจ้านโดนใจ ที่เมืองฮอว์กินส์มีห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ชื่อว่าสตาร์คอร์ต ครบครันทั้งร้านอาหาร ร้านค้า โรงหนัง จนกลายเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ของเยาวรุ่นฮอว์กินส์ แต่ก็เป็นฝันร้ายของผู้ประกอบการรายย่อยที่เจ๊งกันถ้วนหน้า 

     ไมค์กับแอลรักกันหวานชื่นรื่นรมย์ยิ่งกว่าเฮลบลูบอย ลูคัสกับแม็กซ์ก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย การเติบโตในด้านความรักของเพื่อนทั้งสองทำให้วิลไม่ค่อยชอบใจนัก เพราะรู้สึกเหมือนโดนทิ้งไว้คนเดียว จนเมื่อดัสตินกลับมาจากค่ายวิทยาศาสตร์ วิลที่คิดว่าจะได้เล่นเกมกันสักทีก็ต้องผิดหวัง เพราะดัสตินไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังพาเรื่องราวของ ‘ซูซี่’ แฟนสาวที่พบกันที่ค่ายมาเล่าให้เพื่อนฟังด้วย

     แต่ครั้นจะเล่าเฉยๆ ก็กลัวเพื่อนไม่เชื่อ ดัสตินจึงหอบเครื่องรับส่งสัญญาณวิทยุไปบนเนินเขา เพื่อติดต่อกับซูซี่ให้ทุกคนดูเป็นขวัญตา แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งเขาจับสัญญาณปริศนาภาษารัสเซียได้ และตัดสินใจลงมือแกะรอย โดยมีสตีฟและ โรบิน บัคลีย์’ (รับบทโดย มายา ฮอว์ก) พนักงานตักไอศครีมเพื่อนร่วมงานของสตีฟช่วยอีกแรง

     ฮ็อปเปอร์ไม่ชอบใจเวลาเห็นแอลอยู่กับไมค์ ตามประสาคนเป็นพ่อหวงลูกสาวอะเนาะ จึงไปปรึกษาจอยซ์ แม้จะได้รับคำแนะนำที่ดีมากมาย แต่ด้วยอารมณ์โกรธก็ทำให้ฮ็อปเปอร์ลืมสิ้น สั่งไมค์ห้ามยุ่งกับแอลโดยเด็ดขาด เขาไปบอกผลลัพธ์สุดคูลกับจอยซ์ (แน่นอนว่าไม่บอกเรื่องที่ตัวเองตะโกนใส่เด็ก) และชวนเธอไปกินมื้อค่ำสุดหวานแหวว

     จากที่คุยและเจอกันทุกวัน ไมค์ก็เฟดตัวออกไป เรียกได้ว่าอยู่ดีๆ ก็หาย ไลน์ไม่ตอบ แถมยังโกหกอีกต่างหาก แอลไม่รู้จะไปพึ่งใคร เลยไปปรึกษาแม็กซ์ และออกไปเที่ยวกันแบบสาวๆ 

     ขณะเดียวกัน ไมค์ก็ไปปรึกษาลูคัสกับวิล ซึ่งได้มุมมองและคำตอบที่แตกต่างกับสิ่งที่ผู้หญิงต้องการโดยสิ้นเชิง (อันนี้สร้างมาจากเรื่องจริงแน่นอน) เมื่อสองกลุ่มชายหญิงมาเจอกันที่ห้างสตาร์คอร์ตก็จัดกันไปหนึ่งชุดใหญ่ แอลบอกเลิกไมค์ ก่อนจะกลับไปใช้ชีวิตสนุกสนานกับแม็กซ์ต่อ

     แม็กซ์ชวนแอลให้ใช้พลังแอบส่องชาวบ้าน แอลสุ่มได้บิลลี่—พี่ชายของแม็กซ์ เมื่อส่องดูก็พบว่าเขามีพฤติกรรมที่ผิดปกติ พวกสาวๆ จึงออกไปตามหาความจริงว่าสิ่งที่แอลเห็นคืออะไรกันแน่

     แนนซี่กับโจนาธานฝึกงานในสำนักพิมพ์ท้องถิ่น วันหนึ่งแนนซี่ได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุโรคระบาด เมื่อเธอและโจนาธานเดินทางไปถึงก็เจอป้าอ้วนพร้อมกับหนูปริศนาท่าทางมีพิษภัยในกรง แนนซี่ตัดสินใจแอบทำข่าวนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า ท่ามกลางการคัดค้านของโจนาธาน และไม่กี่วันจากนั้นป้าคนเดิมก็กลายร่างเป็นตัวประหลาด กินสารเคมีหมดทั้งบ้าน ก่อนถูกจับส่งโรงพยาบาล

     จอยซ์สังเกตเห็นความผิดปกติของแม่เหล็กติดตู้เย็น เธอตั้งข้อสงสัยว่าพวกห้องแล็บฮอว์กินส์กำลังทดลองอะไรบางอย่าง จึงขอร้องให้ฮ็อปเปอร์ผู้ซึ่งกำลังหัวเสียจากการถูกจอยซ์เบี้ยวดินเนอร์เมื่อคราวก่อนพาไปดูให้เห็นกับตา พอกลับไปก็เห็นแต่ซาก และภาพบ็อบในวันนั้น ทว่าด้วยความตาดี ฮ็อปเปอร์เห็นมนุษย์เดินผ่าน เขาจึงรีบตามไป และโดนฟาดสลบไปหนึ่งที

     มาเล่าฝั่งของดัสตินกับภารกิจลับสืบพวกรัสเซียกันบ้าง

     โรบินแกะรอยจนรู้ว่าพวกรัสเซียจะมาส่งของตอนไหนเวลาไหน แต่ด้วยความที่ท่อระบายอากาศมีขนาดเล็กเกินความสามารถของทุกคน พวกเขาจึงไปขอร้องให้ ‘เอริก้า ซินแคลร์’ (รับบทโดย พรีอาห์ เฟอร์กูสัน) น้องสาวตัวเล็กของลูคัสผู้บูชาระบบทุนนิยมและรักการกินไอศครีมฟรีที่สุดมาช่วย 

     ทั้งสี่คน (ดัสติน สตีฟ โรบิน และเอริก้า) เริ่มต้นภารกิจด้วยความมั่นใจ จนเข้ามาถึงโกดังเก็บของได้ แต่แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อโกดังเก็บของนั้นจู่ๆ ก็กลายร่างเป็นลิฟต์ ทำให้พวกเขามาโผล่ในฐานทัพลับใต้ห้างสตาร์คอร์ตและเห็นการสร้างเครื่องเปิดประตูเมือกโดยไม่ตั้งใจ

     สตีฟกับโรบินเสียสละให้ดัสตินกับเอริก้าหนีไปก่อน ทั้งสองโดนสอบปากคำอย่างหนัก แต่ก็ไม่สามารถให้คำตอบที่ฝั่งรัสเซียต้องการได้ 

     วิลรู้สึกได้ว่าจอมเปิดโปงยังมีชีวิตอยู่ แก๊งเด็กชายหญิงกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง และจับตามองบิลลี่เป็นพิเศษ เย็นวันเดียวกันพวกเขาเริ่มภารกิจจับบิลลี่ไปขังในห้องซาวน่า เพราะจำได้ดีว่าจอมเปิดโปงเกลียดความร้อนมากแค่ไหน และความจริงก็ปรากฏ บิลลี่โดนสิง เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ แอลใช้พลังไปเกือบหมดก๊อก เอาชนะได้แบบฉิวเฉียด 

     บิลลี่เดินทางกลับไปที่รัง ที่แห่งนั้นมีบรรดาคนมากมายที่ถูกจอมเปิดโปงเข้าควบคุมความคิด และกลายมาเป็นพวกเดียวกัน 

     แนนซี่กับโจนาธานถูกจับได้ว่าไปทำข่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งสองคนโดนไล่ออก ทะเลาะกัน ก่อนนำไปสู่การเลิกรา แนนซี่ตัดสินใจกลับไปที่โรงพยาบาลที่ป้าอ้วนพักอยู่ แล้วอยู่ดีๆ ชีก็ช็อก โหยหวน กรีดร้อง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่แก๊งเด็กทำการทดสอบซาวน่าพอดี

     แก๊งวัยรุ่นคู่รักที่เพิ่งเลิกกัน (ก่อนจะกลับมาดีกันภายในสามวัน) และแก๊งเด็กชายหญิงเดินทางไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง แนนซี่กับโจนาธานถูกโจมตีจากลูกน้องจอมเปิดโปงจนเกือบไม่รอด แล้วแอลก็โผล่มาทันเวลาพอดี (เช่นเดิม) ใช้พลังจัดการสัตว์ประหลาดจนเละเป็นก้อน

     จอยซ์กับฮ็อปเปอร์ตามสืบเรื่องไอ้บักคนที่ตีหัวฮ็อปเปอร์ จนได้รู้ว่ามันเป็นคนรัสเซีย และสืบจนเจอแหล่งกบดาน ทั้งสองจับ ‘อเล็กซี่’ นักวิทยาศาสตร์ของรัสเซียมาได้ และพยายามจะล้วงความลับ จึงไปขอความช่วยเหลือจากเมอร์เรย์นักสืบที่ช่วยแนนซี่กับโจนาธานเมื่อซีซั่น 2 เพราะตานี่พูดภาษารัสเซียได้

     คุยกันเกือบทั้งตอน ได้ข้อสรุปว่ารัสเซียกำลังพยายามสร้างกุญแจที่จะเปิดประตูเมือกขึ้นมาอีกครั้ง (สิ่งที่แก๊งดัสตินเห็นนั่นเอง) จอยซ์และฮ็อปเปอร์รู้ดีว่ามันจะเปิดขึ้นมาม่ายด้ายยยยยยย อเล็กซี่บอกวิธีการปิดให้เสร็จสรรพ ทั้งหมดร่วมกันวางแผนอย่างดิบดี แล้วอเล็กซี่ก็โดนสอยร่วงที่งานเทศกาลโดยไอ้บักกล้ามรัสเซียตามท้องเรื่อง

     แอลใช้พลังจิตจนเข้าไปถึงจิตใจของบิลลี่ และเห็นความหลังฝังใจเรื่องแม่ แต่ก็ถูกจอมเปิดโปงจับได้จนได้ มันบุกมาล่าแอลถึงที่และพยายามฆ่าเธอพร้อมกับเพื่อนๆ แอลต่อสู้อีกครั้ง แต่คราวนี้พลาดท่า โดนมันกัดที่ขาจนปวดไปหมด ทุกคนรีบพาเธอไปรักษาแผล และได้รับการติดต่ออีกครั้งจากดัสตินให้ไปเจอกันที่ห้างสตาร์คอร์ต

     ย้อนกลับไปที่ฐานทัพรัสเซีย ดัสตินกับเอริก้าตัดสินใจบุกเข้าไปช่วยเพื่อนวัยรุ่นด้วยตัวเอง และพาทั้งสองคนหนีมาจนถึงในตัวห้างได้สำเร็จ และด้วยความที่สตีฟกับโรบินถูกฉีดยาจนเมา ควบคุมตัวเองไม่ได้ พูดก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เลยทำให้ตกเป็นเป้าสายตาได้ง่ายมาก

     ทั้งสี่คนซ่อนตัวอยู่ในห้าง จวนจะโดนจับได้แล้วแอลก็โผล่มาทันเวลาพอดี (เช่นเดิม) ยกรถฟาดแก๊งรัสเซียหงายคว่ำไปหนึ่งที มีซีนพบปะญาติมิตรเล็กน้อย ก่อนจะโดนคั่นด้วยเสียงกรีดร้องของแอล รอยแผลที่โดนกัดบวมแดง มีตัวดึ๊กดึ๋ยดิ้นอยู่ในนั้น แอลใช้พลังเฮือกสุดท้ายดึงออกไป จบ หมดแรง

     ฮ็อปเปอร์ จอยซ์ และเมอร์เรย์มาถึงห้างสตาร์คอร์ต โดยตามจากเสียงรายงานในวิทยุของพวกรัสเซีย ยังไม่ทันถามไถ่สารทุกข์สุขดิบก็ต้องรีบไปจัดการทั้งกุญแจและสัตว์ประหลาด มีการแบ่งทีมว่าแก๊งผู้ใหญ่จะเข้าไปปิดระบบในฐานทัพลับ ส่วนดัสตินกับเอริก้าจะเป็นคนบอกทาง เพราะทั้งสองคนติดอยู่ในนั้นจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ โดยจะติดต่อผ่านเครื่องส่งสัญญาณวิทยุบนเนินเขา และที่เหลือก็จะพาแอลออกไปพัก ว้าว ช่างเป็นแผนการที่สมบูรณ์ จนกระทั่งแนนซี่พบว่ารถวิ่งบ่ได้! พอมองตรงไปก็เจอบิลลี่บิดเครื่องแง๊นๆ พวกแกไม่มีวันหนีไปได้ ทั้งหมดเลยต้องกลับไปหลบในห้างอีกรอบ

     ระหว่างที่แนนซี่กับโจนาธานกำลังหาสายมาซ่อมรถ แอลรู้สึกได้ว่าพลังของเธอหายไป วิลขนลุกซู่ที่หลังคอ แล้วจอมเปิดโปรงร่างยักษ์ก็ปรากฏตัว ฟาดงวงฟาดงาทำลายทุกสิ่ง ไมค์ แม็กซ์ และแอลพยายามหนีแต่ก็ดันไปโป๊ะกับบิลลี่ แล้วหมอนี่ก็จัดการไมค์กับแม็กซ์ในหนึ่งหมอบ ก่อนจะอุ้มแอลไปวางเป็นอาหารให้จอมเปิดโปง

     แต่ก่อนจะได้อิตาดาคิมัสสสส แก๊งแนนซี่ที่หลบหนีไปอีกทางก็กลับมาช่วย พร้อมโยนดอกไม้ไฟเรียกร้องความสนใจ แอลจึงใช้จังหวะนั้นพูดจาหว่านล้อมบิลลี่ พูดถึงแม่ในความทรงจำ จนบิลลี่ค่อยๆ กลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง และใช้ร่างกายปกป้องแอลในวินาทีสุดท้าย

     จอยซ์ ฮ็อปเปอร์ และเมอร์เรย์ปลอมตัวเป็นทหารรัสเซีย ลักลอบเข้าไปจนถึงตัวฐานทัพ แต่ก็เจอปัญหาไขรหัสไม่ได้ ดัสตินรีบส่งสัญญาณจนในที่สุดก็ติดต่อกับซูซี่—แฟนสาวที่หลายคนคิดว่าทิพย์มาตลอดได้สำเร็จ และขอให้เธอบอกรหัสค่าพลังวิทยาศาสตร์สักอย่างที่สุดจะเนิร์ด จนสามารถเปิดตู้เซฟนิรภัยมาได้

     ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้สวย แต่แล้วไอ้บักกล้ามรัสเซียก็โผล่มาอีกรอบ! ฟัดกับฮ็อปเปอร์อย่างนัวจนออกมานอกห้องควบคุม ฟัดๆๆๆ จอยซ์โดนกดดันจากฝั่งลูกๆ ว่าต้องรีบปิดประตูได้แล้ว จังหวะสุดท้ายก่อนการชี้ชะตา ฮ็อปเปอร์ส่งสายตามาบอกว่าไม่เป็นไร แล้วเธอก็กลั้นใจออกแรงปิดประตู ทำให้อาวุธที่รัสเซียสร้างระเบิดทุกอย่างแหลกเป็นจุล

     รวมไปถึงฮ็อปเปอร์ที่อยู่ข้างนอกด้วย

     สามเดือนต่อมา จอยซ์ โจนาธาน วิล และแอลเก็บของเพื่อย้ายออกจากฮอว์กินส์ แอลเจอกับจดหมายที่ฮ็อปเปอร์เขียนไว้ อ่านแล้วร้องไห้พราก คนดูก็ไม่รอดจ้ะ ฮรือ ซึ้งมาก 

     แล้วเรื่องราวในซีซั่นนี้ก็จบลงพร้อม End Credit ว่าชาวรัสเซียมันบ่จำ มันบ่เข็ด มันฟักเลี้ยงอสูรเดโมกอร์กอนไว้ในฐานทัพอีกที่ด้วย เป็นการปูทางไปสู่ซีซั่น 4 ที่มั่นใจได้ว่าสเกลเรื่องต้องยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน เพราะมีการแบ่งฉายเป็นช่วง โดยพาร์ต 4.1 จะฉายวันที่ 27 พฤษภาคม ส่วนพาร์ต 4.2 เจอกันอีกที 1 กรกฎาคม

     ว่าแล้วก็แอบแปะตัวอย่างให้รับชม

     ป.ล. และหากใครได้ดูตัวอย่างแล้วก็จะพบว่า… ฮ็อปเปอร์ยังไม่ตาย!!! แม่!!!!!!