Wed 22 Sep 2021

tokyo_last_final_updated_12

บ็อกซ์เซตรวมสิ่งละอันพันน้อยของนักออกแบบชาวไทยที่ไปใช้ชีวิตในแดนอาทิตย์อุทัยถึง 12 ปี

ภาพ: NJORVKS

     ทุกคนรู้ กราฟิกดีไซเนอร์รู้ คำว่า Final ไม่มีอยู่จริง

     เมื่อใดก็ตามที่เราคิดว่างานเสร็จ แล้วหาญกล้าตั้งชื่อไฟล์ว่า Final เมื่อนั้นก็จะมี Final_จริง Final_จริงที่สุด หรือ Final_สักทีสิโว้ย ตามมาเสมอ

     ดังนั้นพอเห็นชื่อ tokyo_last_final_updated_12 เราจึงเดาได้ทันทีว่านี่ต้องเป็นหนังสือของกราฟิกดีไซเนอร์สักคนแน่ๆ และคำตอบก็คื้ออออ… (คุณปัญญาชี้นิ้วขึ้นฟ้า ทำปากขมุบขมิบ) ถูกต้องนะคร้าบบบบ โดยหนังสือชื่อสุดยาวนี้คือผลงานของ ‘พี่เป็ด—ภาคภูมิ ลมูลพันธ์’ กราฟิกฯ ชาวไทย ที่ก่อนจะมาเปิด RoutineStudio สตูดิโอออกแบบที่ฝากผลงานไว้มากมายกับหน้าปกหนังสือของสำนักพิมพ์แซลมอน ไปจนถึงออกแบบวิชวลให้กับ Doc Club & Pub. เขาเคยบินลัดฟ้าไปร่ำเรียนและทำงานร่วมกับสตูดิโอออกแบบชั้นนำของญี่ปุ่นมาถึง 12 ปี สุโค่ยเดส!

     เมื่อกลับมาแล้ว พี่เป็ดก็นำเรื่องราวดังกล่าวมาเล่าเป็นหนังสือ ซึ่งไม่ได้มาเป็นรูปเล่มธรรมดา แต่มากันเป็นเซต ท่ามกลางความเหี่ยวเฉาที่ต้องติดแหง็กอยู่ในประเทศไทยมาเกือบ 2 ปี การได้จับสิ่งพิมพ์สวยๆ เป็นชิ้นเป็นอัน และเปิดอ่านหนังสือเซตนี้จึงช่วยชุบชูจิตใจยามคิดถึงแดนอาทิตย์อุทัยได้อย่างดีเยี่ยม ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไง คลิกอ่านรูปถัดไปได้เลย

     ในเมื่อเป็นหนังสือของนักออกแบบทั้งที จะให้มาแบบธรรมดาก็ไม่คงสมพระเกียรติ tokyo_last_final_updated_12 จึงมาในรูปแบบบ็อกซ์เซต ขนาด 11 x 16.5 ซม. อัดแน่นไปด้วยสิ่งพิมพ์ 4 อย่าง ได้แก่

     1. หนังสือบันทึกประสบการณ์เรียนและทำงานที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ปลายปี 2006 ถึงปี 2018 ซึ่งคัดสรรมาจากเรื่องราวในบล็อกที่พี่เป็ดเขียนเอาไว้ตอนอยู่ที่นู่น

     2. หนังสือที่ตีพิมพ์ลงกระดาษสีฟ้า เล่าเรื่องการทำงาน 4 ปีในสตูดิโอออกแบบ groovisions

     3. เซตรวมโปสการ์ดที่เจ้าตัวนำใบปลิวและโบรชัวร์ที่เคยสะสมมาคอลลาจใหม่

     4. แผ่นพับที่คลี่ออกมาแล้วเป็นการ์ตูนเล่าโดย YUNE (พยูณ วรชนะนันท์) นักวาดภาพประกอบชาวไทย

     แรกเริ่มเดิมที พี่เป็ดตั้งใจจะไปเรียนภาษาแค่ปีเดียว ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นหนังสือเล่มนี้อาจจะเหลือแค่ tokyo_final_1 ก็เป็นได้ แต่ด้วยจังหวะและโอกาสหลายๆ อย่างทำให้ระยะเวลา 1 ปีถูกขยายออกเป็น 12 ปี 

     พี่เป็ดเล่าเรื่องราวตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจไปเรียนที่ญี่ปุ่นลงในบล็อกส่วนตัวตั้งแต่ช่วงปลายปี 2006 และเขียนต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปี 2018 ในหนังสือเล่มแรกที่เป็นบันทึกประสบการณ์จึงมีการดีไซน์ออกมาให้เปิดอ่านในแนวนอน เลย์เอาต์ด้านซ้ายระบุเป็นเดือนกับปี เนื้อหาถูกเล่าด้วยเท็กซ์ มีภาพถ่ายและผลงานการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับเรื่องในตอนนั้นๆ (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานออกแบบที่พี่เป็ดไปดูมาแล้วชอบ) แทรกเป็นระยะ อ่านแล้วได้อารมณ์เหมือนเรากำลังไถอ่านบล็อกออนไลน์ แต่เป็นเวอร์ชั่นสิ่งพิมพ์

     แม้ส่วนตัวผู้เขียนจะไม่ได้เรียนออกแบบมาโดยตรง แต่ก็พอได้คลุกคลีกับชาวกราฟิกฯ มาบ้าง จึงค่อนข้างชอบพาร์ตที่เล่าเรื่องในมหาวิทยาลัยเป็นพิเศษ เพราะเป็นการเรียนการสอนที่แตกต่างจากที่ไทยโดยสิ้นเชิง อย่างเช่นในวิชาโฆษณา เราเคยเห็นเพื่อนต้องทำอาร์ตเวิร์กจนตาแตก แต่ในคลาสของพี่เป็ดคือใช้เวลาทั้งเทอมไปกับการศึกษา ทำความเข้าใจตัวสินค้าและผู้บริโภคจนแจ่มแจ้งสุดๆ แล้วไฟนอลก็สร้างสรรค์อาร์ตเวิร์กออกมา 1 ชิ้นถ้วน 

     ใครที่ชอบเรื่องเล่าสนุกๆ เหมือนไปตามติดชีวิตคนคนหนึ่งก็น่าจะถูกใจเล่มนี้ได้ไม่ยาก

     ต่อมาที่หนังสือเล่าประสบการณ์อีกเล่มที่พิมพ์ด้วยกระดาษสีฟ้า หมึกสีดำ แต่เปิดอ่านแบบหนังสือทั่วไป 

     เนื้อหาภายในเป็นเรื่องการทำงานใน groovisions สตูดิโอออกแบบชั้นนำของญี่ปุ่น ซึ่งพี่เป็ด (ในตอนนั้น) เป็นชาวต่างชาติคนแรกและคนเดียวที่ได้ทำงานที่นี่ เรียกได้ว่าโปรยมาแบบหนังสือไลฟ์โค้ชเลยทีเดียว

     ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าเกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำงานในบริษัทญี่ปุ่นที่แตกต่างจากสิ่งที่เราเคยรู้กันมาก่อน อย่างเช่นว่าการไม่บังคับใส่สูทแบบเหล่าซาลารี่มัง การมีเวลาเข้าออกงานที่ค่อนข้างยืดหยุ่น และบรรยากาศการทำงานที่ไม่เฮฮาอย่างที่คิด

     เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศแห่งกระดาษ จึงมีแจกโบว์ชัวร์และใบปลิวต่างๆ เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ซึ่งส่วนหนึ่งจากสิ่งมหาศาลเหล่านั้นได้ถูกพี่เป็ดรวบรวมมาสะสมไว้ในคอลเล็กชั่นส่วนตัวเรียบร้อย

     เซตโปสการ์ดพิมพ์ลาย 2 ด้าน ฝั่งแรกเป็นการคอลลาจบรรดาสิ่งพิมพ์กระดาษที่พี่เป็ดถูกใจ ส่วนอีกฝั่งเป็นพื้นที่ว่างไว้เขียนข้อความ แต่มีกิมมิกเล็กๆ คือข้อความ FROM TOKYO WITH ที่พิมพ์ด้วยหมึกสีเขียว

     บอกเลยว่าใครที่เป็นสายสะสมกระดาษจะต้องร้องกรี๊ดกับสิ่งนี้ เพราะสวยถูกใจจัดเก็บไว้ในหมวดซื้อไว้โชว์ไม่ได้ซื้อไว้ใช้

     หลังจากอ่านแต่ตัวอักษรจนตาเริ่มล้า มาพักสายตากับการ์ตูนแก๊กดีกว่า สิ่งพิมพ์ชิ้นสุดท้ายในเซต ‘สะคุระ’ แผ่นพับการ์ตูนซึ่งวาดโดย ‘YUNE’ หรือ ‘พยูณ วรชนะนันท์’ นักวาดภาพประกอบชาวไทยที่ไปเรียนและทำงานที่ญี่ปุ่นถึง 12 ปีเช่นเดียวกัน

     เนื้อหาเล่าถึงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น เช่น เรื่องอาหารที่ทุกคนรู้ว่ามันช่างอร่อยเกินต้าน ช่วงปีแรกๆ ก็จะเจริญอาหารมากกว่าปกติจนต้องเปลี่ยนไซส์เสื้อผ้า แต่เมื่อเริ่มทำงานหนักก็จะค่อยๆ ซูบลง และกลับมาอวบอิ่มอีกครั้งตอนเที่ยวแหลกส่งท้าย (พอมาคิดเทียบกับตัวเองคือเหมือนไซเคิลของมนุษย์เงินเดือน) หรือจะเป็นประสบการณ์ไปกดเงินก้อนจากตู้เอทีเอ็มครั้งแรกแล้วเลิ่กลั่กเกินไปจนตำรวจสงสัย 

     สารภาพตรงนี้เลยว่าเวลาหยิบเซตนี้มาเปิดดูทีไร ไฟอิจฉาในใจมักจะลุกโชนขึ้นมาทุกที หากใครสนใจบ็อกซ์เซตสุดปังและควรค่าแก่การมีไว้ในครอบครอง สามารถสั่งซื้อได้ที่ https://store.minimore.com/salmonbooks/items/tokyo_last_final_updated_12 

     สุดท้ายนี้ขอให้พวกเราทุกคนได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นไวๆ สักทีแบบไม่ต้องมามีไฟนอลอีกหลายรอบห้อยท้าย TwT